4 วัยรุ่นไทยหวังรวยทางลัด! ลักลอบเข้ากัมพูชาทำงานเว็บพนัน

สี่วัยรุ่นไทยหวังรวยทางลัด! ลักลอบเข้ากัมพูชาทำงานเว็บพนัน แต่ถูกทหารพรานรวบคาชายแดน ขณะเดียวกันยังจับกุมเพิ่มได้อีก 2 หนุ่มสาวที่หวังข้ามไปทำงานเว็บพนัน
เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2568 กองกำลังบูรพา ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ และชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 (ร้อย ทพ.1206) เข้าจับกุมชายไทย 3 คน และหญิงไทย 1 คน ขณะกำลังลักลอบเดินเท้าออกจากประเทศไทยผ่านเส้นทางธรรมชาติ บริเวณบ้านเนินสมบูรณ์ ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ทั้งหมดรับสารภาพว่ากำลังจะไปทำงานเว็บพนันออนไลน์ในกัมพูชา
การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.1206 ออกลาดตระเวน และพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยกำลังมุ่งหน้าไปทางคลองกั้นเขตแดนไทย–กัมพูชา ตรวจสอบพบว่าเป็นคนไทย
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทั้งหมดให้การว่า เดิมเคยทำงานในกัมพูชามาก่อน และกลับมาไทยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ต่อมาได้รับการชักชวนจากเพื่อนให้กลับไปทำงานเป็นแอดมินเว็บพนันออนไลน์ที่ปอยเปต โดยเสนอค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท จึงตัดสินใจเดินทางอีกครั้ง พร้อมยอมจ่ายค่าเดินทางให้ผู้นำพา 6,500 บาท โดยมีรถยนต์มารับที่ บขส.อรัญประเทศ แล้วนำมาส่งยังท้ายหมู่บ้านเนินสมบูรณ์ ก่อนให้เดินเท้าต่อเพื่อข้ามไปยังฝั่งกัมพูชา แต่เมื่อมาถึงจุดที่ห่างจากคลองกั้นเขตแดนเพียง 50 เมตร ก็ถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานแสดงตัวจับกุมได้ทันที เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองน้ำใส ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดเดิมยังสามารถจับกุมชายไทย 1 คน และหญิงไทย 1 คน ได้อีก ขณะกำลังลักลอบเดินเท้าเข้าใกล้ชายแดนไทย–กัมพูชา ในพื้นที่ไร่อ้อย บ้านทุ่งรวงทอง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ทั้งสองยอมรับว่ากำลังจะไปทำงานเป็นแอดมินเว็บพนันออนไลน์ที่ปอยเปต
ผู้ต้องหาทั้งสองอายุ 21 ปีและอายุ 23 ปี ชาวจังหวัดสระแก้ว จากการสอบสวนให้การว่า เคยทำงานในกัมพูชามาก่อน แต่กลับมาไทยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ต่อมามีเพื่อนชักชวนให้กลับไปทำงานอีกครั้ง โดยครั้งนี้เสนอค่าจ้างเดือนละ 25,000 บาท จึงตัดสินใจไปและยอมจ่ายเงินให้ผู้นำพา 6,500 บาท เพื่อนำพาข้ามแดน
ทั้งคู่ระบุว่ามีรถมารับจากรีสอร์ตที่พัก ก่อนนำมาส่งยังท้ายหมู่บ้าน และให้เดินเท้าต่อเพื่อข้ามแดน แต่เมื่อมาถึงจุดที่ห่างจากคลองกั้นเขตแดนเพียง 450 เมตร ก็ถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานเข้าจับกุมไว้ได้ทันที เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองน้ำใส เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา : สวท.สระแก้ว