เร่งช่วย "พังข้าวต้ม" ลูกช้างป่าพลัดหลง พบภาวะผิดปกติแต่กำเนิด

เผยผลตรวจสุขภาพ “พังข้าวต้ม” ลูกช้างป่าพลัดหลงกาญจนบุรี พบความผิดปกติแต่กำเนิด ทีมสัตวแพทย์เร่งรักษา ฟื้นฟูโภชนาการและกายภาพบำบัด หวังให้ลูกช้างกลับมาแข็งแรง
วันที่ 23 กันยายน 2568 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เปิดเผยผลตรวจสุขภาพ “พังข้าวต้ม” ลูกช้างป่าเพศเมียพลัดหลงจากแม่ ในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี หลังทีมสัตวแพทย์เข้าช่วยเหลือเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ผลการตรวจพบว่า “พังข้าวต้ม” มีภาวะโครงสร้างร่างกายผิดปกติแต่กำเนิดหลายจุด แม้ไม่พบการแตกหักของกระดูก แต่ยังมีอาการเจ็บปวดและเคลื่อนไหวลำบาก โดยลูกช้างมีอายุประมาณ 1 สัปดาห์ น้ำหนัก 118 กิโลกรัม และมีความผิดรูปบริเวณข้อเท้าหน้า รวมถึงการอักเสบที่สะโพกขวา
ผลการวินิจฉัยและอาการ
- เอกซเรย์: ไม่พบกระดูกหัก แต่ยังต้องติดตามความผิดปกติที่สะโพก
- อัลตราซาวด์: พบเส้นเอ็นข้อเท้าผิดปกติ และก้อนเลือด (Hematoma) บริเวณสะโพก
- ตรวจเลือด: ส่งตรวจในห้องแล็บเพื่อประเมินสุขภาพและโรคที่อาจเกี่ยวข้อง
ทีมสัตวแพทย์สรุปว่าอาการทั้งหมดน่าจะเกิดจากภาวะผิดปกติแต่กำเนิด ผนวกกับร่างกายที่อ่อนแอ ทำให้บาดเจ็บเพิ่มขณะเอาตัวรอดในป่า
แผนการรักษา
เบื้องต้นทีมสัตวแพทย์ได้ให้ยาลดปวด ลดอักเสบ พร้อมวางแผนฟื้นฟูระยะยาว โดยใช้โภชนาการเสริมและการทำกายภาพบำบัด เพื่อหวังให้ลูกช้างสามารถกลับมายืนและเดินได้ในอนาคต หากอาการไม่ดีขึ้นจะมีการตรวจซ้ำอีกครั้ง
ลำดับเหตุการณ์การช่วยเหลือ
- 21 ก.ย. ชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงูว่าพบลูกช้างป่าเพศเมียอ่อนแรงและบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ พร้อมตั้งชื่อว่า “ข้าวต้ม” เพราะได้ป้อนน้ำข้าวต้มเพื่อประคองอาการ
- 22 ก.ย. กรมอุทยานฯ เคลื่อนย้ายลูกช้างไปยังศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี โดยมีทีมสัตวแพทย์ดูแลใกล้ชิด
ด้านแม่ช้าง เจ้าหน้าที่ระบุว่าได้กลับเข้าฝูง และเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ไปแล้วหลายกิโลเมตร
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ กำชับให้ทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ดูแล “พังข้าวต้ม” ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ปลอดภัยและมีโอกาสฟื้นตัวแข็งแรง