กินลูกเนียงดิบระวังไว้ มีอาการแบบนี้อาจกำลังเสี่ยงไตวาย

"ลูกเนียงอย่ากินดิบ" วันนี้เราจะพาไปดูว่าลูกเนียงดิบมีอันตรายอย่างไร และสัญญาณเตือนอะไรบ้างที่คุณต้องรีบไปพบแพทย์
หลายคนคงคุ้นเคยกับเมนู "ลูกเนียง" ที่มีรสชาติอร่อยและเป็นที่นิยมในภาคใต้ แต่รู้หรือไม่ว่าการกินลูกเนียงดิบมากเกินไปอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะกับไต วันนี้เราจะพาไปดูว่าลูกเนียงดิบมีอันตรายอย่างไร และสัญญาณเตือนอะไรบ้างที่คุณต้องรีบไปพบแพทย์
อันตรายที่คาดไม่ถึง ทำไมการกิน "ลูกเนียงดิบ" ถึงเสี่ยงไตวาย?
ลูกเนียงเป็นพืชที่นิยมนำมารับประทานกันมาก โดยเฉพาะในภาคใต้ของไทย แต่รู้หรือไม่ว่าการกินลูกเนียงดิบในปริมาณมากเกินไป อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
รู้จัก “กรดเจงโคลิค” สารอันตรายในลูกเนียง
ในลูกเนียงมีสารพิษที่ชื่อว่า “กรดเจงโคลิค (djenkolic acid)” ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการทำงานของไต หากร่างกายได้รับสารนี้มากเกินไป จะส่งผลให้ระบบประสาทของไตเสื่อมลง และอาจนำไปสู่ภาวะ ไตวาย หรือ ไตล้มเหลว จนเสียชีวิตได้ในที่สุด
อาการเป็นพิษจากลูกเนียง
โดยทั่วไปพบได้น้อย แต่ผู้ที่มีอาการมักจะกินลูกเนียงดิบในปริมาณมากและดื่มน้ำน้อย สังเกตอาการได้ดังนี้
- อาการทางไต: ปวดเอว, ปวดบริเวณขาหนีบ, ปัสสาวะลำบาก, ปัสสาวะขุ่นเป็นสีน้ำนม หรืออาจปัสสาวะเป็นเลือด
- อาการทางเดินอาหาร: ปวดท้อง, คลื่นไส้, อาเจียน
- ในกรณีที่อาการรุนแรง อาจทำให้ปัสสาวะไม่ออก ซึ่งถือเป็นภาวะฉุกเฉิน และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก
วิธีลดพิษและกินลูกเนียงให้ปลอดภัย
เพื่อความปลอดภัย ควรนำลูกเนียงไปผ่านกระบวนการลดสารพิษก่อนรับประทาน โดยทำได้หลายวิธี เช่น
- นำไปเพาะในทรายให้มีต้นอ่อนงอกออกมา
- นำเมล็ดไปต้มให้สุก
- หั่นเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำไปตากแดดให้แห้งก่อนนำไปประกอบอาหาร
หากมีอาการผิดปกติหลังกินลูกเนียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือปวดท้อง ควรรีบไปพบแพทย์และแจ้งประวัติการกินอาหารทันที เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันเวลา

คนละครึ่ง 2568 เปิดเงื่อนไข ไม่ใช่ทุกคนจะได้ พบ 1 กลุ่มอดได้สิทธิ

สีเสื้อมงคล วันที่ 16 กันยายน 2568 สายมูห้ามพลาด มีคำแนะนำ

อัปเดตราคาทองวันนี้ 15 กันยายน 2568 ราคาทองปรับอีก ครั้งที่ 10

ผลหวยออมสิน 16 ก.ย.68 ผลสลากออมสินพิเศษ 1ปี งวด 16/09/68
