กล้วยไม่ได้มีดีแค่หอมหวี เปิดสรรพคุณลับของกล้วยแต่ละชนิด

กล้วย ผลไม้ไทยพื้นบ้านที่อยู่คู่ครัวเรือนมานาน ไม่ได้มีดีเพียงแค่รสชาติอร่อยหรือเป็นของหวานที่ทุกคนคุ้นเคย แต่ยังเต็มไปด้วยสารอาหารและคุณสมบัติทางยาที่ช่วยบำรุงสุขภาพแตกต่างกันไปในแต่ละสายพันธุ์ มาดูกันว่ากล้วยชนิดต่าง ๆ มี “สรรพคุณลับ” อะไรบ้าง

กล้วยหอม

นอกจากจะกินสดหรือใส่ในของหวานอย่างไอศกรีมให้อร่อยแล้ว กล้วยหอมยังมีวิตามินบี 6 และบี 12 รวมถึงโพแทสเซียมและแมกนีเซียมสูง ซึ่งมีส่วนช่วยบรรเทาอาการขาดสารนิโคติน จึงเหมาะกับผู้ที่กำลังพยายามเลิกบุหรี่ อีกทั้งยังช่วยลดอาการหงุดหงิด ปวดท้อง ปวดหัวก่อนมีประจำเดือนในผู้หญิงได้เป็นอย่างดี

กล้วยน้ำว้า

ผลไม้ประจำเมนูยอดนิยมอย่างกล้วยบวชชี แต่แฝงคุณค่าไม่ธรรมดา โดยกล้วยน้ำว้าอุดมไปด้วยธาตุเหล็กสูง ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจาง นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินซี และใยอาหารที่ช่วยบำรุงเหงือก ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย
 

กล้วยไข่

ขึ้นชื่อว่าช่วยชะลอวัย เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้าแคโรทีน ช่วยลดริ้วรอย ความเสื่อมของเซลล์ และมีฤทธิ์ป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งได้ อีกทั้งหัวปลีของกล้วยไข่ยังมีแคลเซียม ธาตุเหล็ก และแมกนีเซียมที่ช่วยบำรุงกระดูกและเนื้อเยื่อให้แข็งแรง

กล้วยหักมุก

แม้จะไม่เป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่เท่ากล้วยชนิดอื่น แต่กล้วยหักมุกที่มักนิยมปิ้งก่อนรับประทาน มีคุณสมบัติพิเศษจากสารกลุ่มไซโตอินโดไซด์ ที่ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และป้องกันแผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของอาการท้องเสียได้อีกด้วย

สรุป

ไม่ว่าคุณจะชอบกล้วยชนิดไหน ล้วนมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายแตกต่างกันไป กล้วยจึงไม่ใช่แค่ผลไม้พื้นบ้าน แต่ยังเป็น “ซูเปอร์ฟู้ด” ที่ช่วยดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจได้อย่างครบถ้วน
 

แหล่งที่มาอ้างอิง

1.กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข — ข้อมูลคุณค่าทางโภชนาการของกล้วยไทย

2.กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก — สรรพคุณสมุนไพรพื้นบ้าน