พบศพชายชาวเกาหลีใต้ บริเวณฐานแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา

เมื่อวันที่ 17 ส.ค. สำนักข่าว Korea Herald ของเกาหลีใต้ รายงานว่า พบศพชายชาวเกาหลีใต้ในพื้นที่ฐานแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา โดยศพถูกห่อด้วยผ้าห่มและถุงพลาสติก ใบหน้าบวมช้ำ บ่งชี้ว่าเขาอาจถูกทุบตีจนเสียชีวิต

ตำรวจกัมพูชากล่าวว่า พบศพเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมาในจังหวัดกำปอด ภายในถังขยะขนาดใหญ่ ร่วมกับเหยื่ออีกราย กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ยืนยันว่าผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นชาวเกาหลีนามสกุล พัค

กระทรวงฯ ระบุว่า ได้ขอให้ทางการกัมพูชาสอบสวนอย่างละเอียดทันที และกำลังให้การสนับสนุนทางการกงสุลแก่ครอบครัวนายพัค แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะระบุว่า “การยืนยันรายละเอียดเพิ่มเติมเป็นเรื่องยาก”

Korea Herald ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับพัคดูเหมือนจะมีความเชื่องโยงกับแก๊งอาชญากรรมไซเบอร์ สถานที่ที่พบศพของเขาเป็นหนึ่งในฐานปฏิบัติการขนาดใหญ่ในกัมพูชาที่รายงานว่าดำเนินการโดยกลุ่มอาชญากรรมจีน พื้นที่ของแก๊งเหล่านี้มักถูกปิดล้อมและมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา

เชื่อว่านายพัคถูกกักขังอยู่ภายในพื้นที่นี้ก่อนที่จะถูกแก๊งมิจฉาชีพสังหาร

เจ้าหน้าที่สืบสวนท้องถิ่นรายงานว่า ร่างของนายพัคมีรอยฟกช้ำและคราบเลือดจำนวนมาก พร้อมด้วยอาการบวมที่บ่งชี้ว่าเขาต้องเผชิญกับความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง

ความโหดร้ายนี้สะท้อนคำบอกเล่าของผู้รอดชีวิตจากแก๊งต้มตุ๋นเหล่านี้ ชายชาวเกาหลีใต้วัย 28 ปีคนหนึ่งซึ่งเพิ่งหลบหนีออกมาได้ กล่าวกับสื่อเกาหลีใต้ว่า “สมาชิกแก๊งชาวจีนจะฆ่าคนได้ง่าย ๆ หากมีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง”

เขาอธิบายด้วยว่า การทุบตี การช็อตไฟฟ้า และการทรมานด้วยน้ำ เป็นเรื่องปกติ

แอมเนสตีอินเตอร์เนชันแนลประมาณการว่า มีแก๊งต้มตุ๋นแบบนี้มากกว่า 50 แห่งดำเนินการอยู่ทั่วกัมพูชา โดยทั้งกลุ่มสิทธิมนุษยชนและสื่อท้องถิ่นต่างอธิบายว่าสถานที่เหล่านี้เป็นเสมือนศูนย์รวมของอาชญากร เป็นสถานที่ที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในกัมพูชามีขอบเขตจำกัด

รายงานท้องถิ่นสงสัยว่า อาจมีชาวเกาหลีใต้จำนวนหนึ่งที่ไม่ทราบแน่ชัดติดอยู่ภายในพื้นที่ของแก๊งเหล่านี้ โดยถูกหลอกลวงด้วยประกาศรับสมัครงานที่โฆษณาว่า “งานในต่างประเทศที่ให้ค่าตอบแทนสูง” แต่กลับพบว่าตนเองถูกค้ามนุษย์เป็นแรงงานบังคับเมื่อเดินทางมาถึง

ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้แสดงให้เห็นว่า จำนวนชาวเกาหลีใต้ที่ถูกลักพาตัวหรือถูกคุมขังในกัมพูชาเพิ่มขึ้นจาก 21 รายในปี 2023 เป็น 221 รายในปี 2024 และเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่ามี 212 ราย ซึ่งบ่งชี้ว่าจำนวนทั้งหมดในปีนี้อาจเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าของปีที่แล้ว

แม้วิกฤตพลเมืองเกาหลีใต้ถูกหลอกไปทำงานกับแก๊งมิจฉาชีพจะรุนแรง แต่เกาหลีใต้ประสบปัญหาในการให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากไม่มีอำนาจในการสืบสวนในพื้นที่กัมพูชา

ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้ประจำการอยู่ที่สถานทูตในกรุงพนมเปญเพียงนายเดียว เหยื่อจึงมักต้องรายงานตัวกับตำรวจกัมพูชาโดยตรง เนื่องจากสถานทูตไม่สามารถดำเนินการช่วยเหลือหรือสืบสวนด้วยตนเองได้

ที่มา Korea Herald