หลวงปู่ศิลา เมตตาเล่านิทาน บอกวิธีเดียวที่ทำให้กัมพูชายอมหยุด

พระราชวัชรธรรมโสภณ หรือ หลวงปู่ศิลา สิริจันโท เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน ตำบลกุดปลาค้าว อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นพระเกจิที่อธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลมอบให้กองทัพไทย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ พร้อมสนับสนุนปัจจัยดำเนินงานปกป้องอธิปไตยอย่างต่อเนื่อง ผ่าน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 โดยตลอดช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2568 หลวงปู่ศิลาได้ทำกิจกรรมสำคัญ 3 วาระ

 

วาระแรก – วันที่ 2 สิงหาคม 2568 เวลา 09:09 น. ที่วัดสวนธรรมปิติ (ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา สิริจันโท) บ้านแกเปะ ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ มีพุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบสักการะและขอพรอย่างคับคั่ง รวมถึงทหารกล้าที่รอดชีวิตจากเหตุระเบิด เข้ากราบถวายตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่ได้มอบเหรียญขุนแผนยอดขุนพลเพิ่มอีกเหรียญ พร้อมวัตถุมงคลให้กับทหารอีกนายจากกองพันเดียวกันเพื่อความเป็นสิริมงคล

 

วาระที่สอง – วันที่ 9 สิงหาคม 2568 ซึ่งตรงกับวันพระ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 เวลา 09:29 น. ที่วัดสวนธรรมปิติ หลวงปู่ศิลาเป็นประธานอุปถัมภ์ฝ่ายสงฆ์ ในพิธีทอดผ้าป่าต้นไม้ โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และ พล.ต.กิตติพงษ์ เนื่องชมภู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 เป็นประธานกรรมการดำเนินงาน พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ พุทธศาสนิกชน และสื่อมวลชนร่วมงาน โดยเฉพาะกลุ่ม FC แม่ทัพกุ้งที่มาขอถ่ายรูปจำนวนมาก

 

วาระที่สาม – วันที่ 11 สิงหาคม 2568 ที่วัดสวนธรรมปิติ วิทยาลัยการทัพบกนำโดย นายอัศวิน ตีระวัฒนพงษ์ ประธาน วทบ.69 พร้อมคณะ ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ทีมงามรักษ์ตา และแม่บ้านตำรวจ จัดโครงการ “สายตาใส ใจอาสา ถวายหลวงปู่ศิลา” ให้บริการตรวจโรคตา แจกแว่นสายตา และมอบเวชภัณฑ์ฟรีแก่ประชาชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 93 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคม 2568

 

นอกจากนี้ ในทั้ง 3 วาระ หลวงปู่ศิลาได้เมตตาเล่านิทานตำนานปราสาทเขาพระวิหารเป็นภาษาอีสาน เล่าถึงครูบาอาจารย์ใหญ่ที่คอยคุ้มครองเขาพระวิหาร และแผ่เมตตาขอความช่วยเหลือจากเทพต่าง ๆ ให้ปกป้องทหารไทย พร้อมเตือนถึงต้นตอความขัดแย้งชายแดน โดยเปรียบเปรยบุคคลสำคัญในตำนานกับสถานการณ์ปัจจุบัน ว่า ทหารไทยสู้ได้ แต่ฝ่ายกัมพูชามีการยั่วยุและโจมตีซ้ำ รวมถึงระบุว่า “ฮุน เซน” เป็นดั่งพญามารผู้ใจบาปที่ส่งโดรนสอดแนม และวางระเบิดในพื้นที่ชายแดน พร้อมทิ้งท้ายด้วยถ้อยคำสะท้อนใจว่า หากจะยุติความขัดแย้งนี้ได้ กัมพูชาคงต้องประสบความพ่ายแพ้อย่างหนักจึงจะยอมเลิกยั่วยุ

 

"แรกๆ ต้นตอของกัมพูชาชื่อพ่อใหญ่ทอง ได้ไปเรียนของดีจากพระฤๅษีทางลาว เลยไปได้นาคเป็นเมีย ชื่อสุคนธา พอเรียนศาสตร์และศิลป์เสร็จแล้ว เลยพาเมียกลับกัมพูชา ได้ลูกได้เต้าหลายคน มีลูกคนหนึ่งชื่อพระยาละแวก ที่มีนิสัยคดโกงอยู่ตลอดเวลา ได้ขอพรพ่อไปตั้งเมืองใหม่อยู่บนยอดเขา ต่อหน้าดี แต่ไม่ถึงนาทีก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เหมือน ฮุน เซน เหมือนกับเลียนแบบกันมาเลย พอไทยเผลอก็แอบมารบแถบจังหวัดตามแนวชายแดนของไทย ดูเหตุการณ์แล้วเชื่อเขมรไม่ได้หรอก ทหารไทยไม่ตอบโต้ยิ่งวางระเบิดเพิ่ม ฮุน เซน เป็นพญามารผู้ใจบาป ส่งโดรนมาสอดแนมอยู่เรื่อย มีใต้เมืองบาดาลของกัมพูชาส่งสารมาบอกว่า พ่อแม่เอ๋ยทำยังไงถึงจะเลิกการสู้รบ ก็น่าจะทำให้กัมพูชาย่อยยับ ถึงจะยอมหยุดยั่วยุ"