เช็กลิสต์เลือกประกัน OPD แบบไหนที่ใช่ ด้วย 4 ขั้นตอนง่าย ๆ

อยากมีประกัน OPD แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ? อ่าน 4 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการเลือกประกันสุขภาพ OPD พร้อมเช็กลิสต์ที่ช่วยให้คุณได้แผนที่คุ้มค่า และตอบโจทย์
ค่ารักษาพยาบาลสำหรับการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล เช่น ไข้หวัด ภูมิแพ้ หรือท้องเสีย แม้จะดูไม่เยอะในแต่ละครั้ง แต่เมื่อรวมกันทั้งปีก็อาจกลายเป็นค่าใช้จ่ายก้อนโตได้ การมีประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก (OPD) จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยแบ่งเบาภาระเหล่านี้ แต่จะเลือกอย่างไรให้เหมาะสม และคุ้มค่าที่สุด ? ในบทความนี้ เรามีวิธีเลือกประกันสุขภาพ OPD แบบง่าย ๆ มาฝาก เพื่อให้คุณได้แผนประกันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของตัวเองอย่างแท้จริง
- ประกัน OPD แบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ เช็กเลย !
ก่อนจะเลือกซื้อ มาทำความเข้าใจประเภทของประกัน OPD ที่มีในตลาดกันก่อน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะแบ่งตามลักษณะความคุ้มครองได้ 2 รูปแบบใหญ่ ๆ เพื่อให้คุณเลือกได้ตรงกับพฤติกรรมสุขภาพของตัวเอง
- 1. ประกัน OPD แบบจำกัดวงเงินต่อครั้ง (Per-Visit Limit)
ประกันรูปแบบนี้จะกำหนดวงเงินความคุ้มครองสูงสุดต่อการหาหมอหนึ่งครั้ง และมักจำกัดจำนวนครั้งที่สามารถใช้ได้ต่อปี เช่น คุ้มครองครั้งละ 1,500 บาท สูงสุด 30 ครั้งต่อปี เหมาะสำหรับคนที่สุขภาพค่อนข้างแข็งแรง นาน ๆ ครั้งจะเจ็บป่วยเล็กน้อย และค่ารักษาในแต่ละครั้งไม่สูงมากนัก
- 2. ประกัน OPD แบบเหมาจ่ายต่อปี (Lump-Sum/Annual Limit)
ประกันรูปแบบนี้จะให้วงเงินความคุ้มครองรวมสำหรับทั้งปี โดยไม่จำกัดวงเงินหรือจำนวนครั้งในการหาหมอ จนกว่าจะใช้วงเงินต่อปีจนครบ เช่น เหมาจ่ายค่ารักษา OPD ปีละ 30,000 บาท เหมาะสำหรับคนที่ต้องพบแพทย์บ่อย มีโรคประจำตัวที่ต้องติดตามอาการ หรือต้องการความคล่องตัว และความสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนเกินในแต่ละครั้ง
สำหรับใครที่ต้องการเห็นภาพการเปรียบเทียบที่ชัดเจนยิ่งขึ้นระหว่างประกัน OPD แต่ละรูปแบบ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกซื้อประกัน สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่บทความ รู้จักประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก OPD แบบไหนเหมาะกับคุณที่สุด
- 4 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการเลือกซื้อประกันสุขภาพ OPD
เมื่อเข้าใจประเภทของประกันแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการเลือกซื้อเพื่อให้ได้แผนที่เหมาะสมกับเราที่สุด ด้วย 4 ขั้นตอนการพิจารณาง่าย ๆ ดังนี้
- 1. ประเมินความจำเป็น และไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
ขั้นตอนแรกคือ การสำรวจพฤติกรรมสุขภาพของตนเอง โดยลองตอบคำถามเหล่านี้ดู
- คุณป่วยบ่อยแค่ไหน ?
- ปกติเข้ารักษาที่โรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน ?
- ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครั้งประมาณเท่าไร ?
คำตอบจากคำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณประเมินวงเงินความคุ้มครองที่ต้องการได้อย่างเหมาะสม
- 2. เปรียบเทียบแผนประกันและความคุ้มครอง
อย่ามองแค่เรื่องค่าเบี้ยประกันที่ถูกที่สุด ควรศึกษา และเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลาย ๆ บริษัทประกัน ทั้งในด้านรายละเอียดความคุ้มครอง วงเงิน และข้อยกเว้นต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับแผนที่ให้ประโยชน์สูงสุด และคุ้มค่าที่สุด
- 3. ตรวจสอบเครือข่ายโรงพยาบาล และคลินิก
เพื่อให้การเคลมประกันสะดวกสบาย และไม่ต้องสำรวจจ่าย ควรเลือกบริษัทประกันที่มีโรงพยาบาล หรือคลินิกในเครือข่ายที่คุณสะดวกไปใช้บริการเป็นประจำ อย่าลืมตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลในเครือข่ายก่อนตัดสินใจ
- 4. อ่านเงื่อนไขในกรมธรรม์อย่างละเอียด
ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรอ่านรายละเอียดในกรมธรรม์ให้ถี่ถ้วน โดยเฉพาะเงื่อนไขสำคัญ เช่น ระยะเวลารอคอย (Waiting Period) ซึ่งเป็นช่วงที่ยังไม่สามารถเคลมได้ และข้อยกเว้นความคุ้มครอง เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับความคุ้มครองตามที่คาดหวังเมื่อถึงเวลาต้องใช้งานจริง
จะเห็นได้ว่า วิธีเลือกประกันสุขภาพ OPD ที่ดีที่สุดคือการเริ่มต้นทำความเข้าใจพฤติกรรมสุขภาพของตัวเอง เพื่อเลือกระหว่างแผนแบบ “จำกัดวงเงินต่อครั้ง” หรือ “เหมาจ่ายต่อปี” ให้เหมาะสม จากนั้นจึงพิจารณาเปรียบเทียบรายละเอียดของแต่ละแผนอย่างรอบคอบ การวางแผนอย่างดีจะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่า และเป็นประโยชน์สูงสุดในวันที่เจ็บป่วยอย่างแน่นอน
ที่มา : Krungsri The COACH

ไทยพาร์เซิล (TPL) ร่วมภารกิจ เนชั่นปันน้ำใจ เคียงข้างสังคมไทยในยามยาก

เปิดดวง 5 ราศี ดวงเดือนสิงหาคม เป็นเดือนที่ดีเรื่องคนรอบข้าง

เจอก้อนที่คอแบบไหนอันตราย อย่ามองข้าม 5 ข้อนี้ เช็กเลย

เรวัช ซัด หมอดูดัง พูดไปเรื่อยทำคนแตกตื่น พร้อมฝากถามถึงท่านยม
