ส่อหายทิพย์ "บิ๊กเต่า" เผยคดีเจ้าอาวาสวัดม่วง เงิน-ทองหาย พบพิรุธ

วันที่ 21 ก.ค. 68 เวลา 14.00 น. ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการสืบสวนสอบสวนคดีเงิน 10 ล้านบาท และทองคำหนัก 250 บาท ของพระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. หายไปจากกุฏิเจ้าอาวาส ในคดีมีผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 4-5 คน อยู่ใกล้ชิดและอยู่ในวัดตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา

พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว กล่าวว่า คดีวัดม่วงตอนนี้รู้สึกว่าจะเป็นวัดอลเวงมาก เดี๋ยวทองหายเดี๋ยวเงินหาย เมื่อถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบหนักๆ รู้สึกว่าทางเจ้าอาวาสจะหลงๆ ลืมๆ อะไรก็ไม่รู้มั่วไปหมด ซึ่งคาดว่าเจ้าอาวาสจะให้การเท็จหรือเปล่า หรือเงินทองที่ไหลเข้ามา มาจากที่ไหน อะไรยังไงก็ไม่อาจทราบได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบทุกบัญชีและรายได้ทั้งหมดที่เข้ามาในวัดว่าเจ้าอาวาสบริหารงานยังไง ไวยาวัจกรมีอำนาจตรงไหนบ้าง ตอนนี้ทำหลายเรื่องมาก ต้องแบ่งกันทำ และได้ข่าวมาว่าเจ้าอาวาสเจอทองแล้วบางส่วน อ้างว่าหลงๆ ลืมๆ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเจ้าอาวาสโกหกหรือไม่ บิ๊กเต่าตอบว่า ได้ข่าวมาเบื้องต้นว่าเจ้าอาวาสเจอทองแล้ว แต่เงินยังหลงๆ ลืมๆ อยู่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พระ 4 รูป ต้องมีรูปใดรูปหนึ่งที่โกหกหรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ตอบว่า ยังไม่ชัดเจน แต่ได้รับรายงานมาจากผู้บังคับบัญชาว่า เมื่อเราซักถามไปในรายละเอียดมากๆ ปรากฏว่าเริ่มจับได้แล้วว่าทองอยู่กับใคร แต่เงินยังไม่แน่ใจ และยืนยันว่าท่านเจ้าอาวาสไม่ได้ป่วยหรือเป็นอัลไซเมอร์อะไรทั้งนั้น เพราะยังมีสติครบ และยังด่าได้ปกติ

และผู้สื่อข่าวถามอีกว่าจะเป็นการแจ้งความเท็จหรือไม่ บิ๊กเต่าตอบว่า น่าจะได้หนึ่งข้อหาแล้ว ส่วนอาญาทุจริตถ้าเกี่ยวข้องเราก็จะเพิ่มให้อีก และยังมีประเด็นที่ต้องตามต่อเกี่ยวกับเงินรายได้ของวัดที่เข้ามาหลายช่องทางและเข้ามาในบัญชีวัด ส่วนในเรื่องที่ท่านเจ้าอาวาสได้ไปแจ้งความ ไม่แน่ใจว่าไปแจ้งความเรื่องอะไร เพราะไม่ได้คุยกับ สน.เพชรเกษม แต่น่าจะไปแจ้งความเรื่องเงินหาย

สรุปสุดท้ายแล้วคือ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ปล่อยคดีวัดม่วง เพราะเป็นเป้าหมายหนึ่งที่จะต้องดำเนินการให้ถูกต้อง เพราะท่านเจ้าอาวาสมีเงินเกินตัวที่พระสมควรจะมี และมีบัญชีหลายบัญชีที่ยังไม่ชัดเจน อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ ถ้าชัดเจนเมื่อไหร่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมาย

ส่วนพระนิทัศน์ คู่กรณีเจ้าอาวาสวัดม่วง ที่ได้มาร้องเจ้าอาวาสวัดม่วง วันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา ตนในฐานะที่ทำงานเรื่องนี้ ใครก็แล้วแต่ที่มาให้ข้อมูล เราก็รับฟัง แต่ไม่ได้เอามาเป็นประเด็นหลักในการดำเนินการด้านกฎหมาย เพียงแค่นำมาเป็นข้อมูลประกอบในคดีที่กำลังทำอยู่ แล้วก็ไปตรวจสอบตามข้อมูลที่ท่านให้มา มีประโยชน์หลายเรื่องที่ทำให้เห็นถึงเส้นเงินที่เราต้องไปตาม ว่าวัดมีรายได้จากไหนบ้าง