คดีพลิก สาวอังกฤษอ้างถูกบังคับขนยา ตม.ไทย งัดหลักฐานโต้ทันที

 จากกรณี The Telegraph สำนักข่าวชื่อดังของอังกฤษ รายงานข่าวการไต่สวนคดีของ เบลลา เมย์ คัลลีย์ (Bella May Culley) สาวอังกฤษผู้ต้องหาคดียาเสพติดในประเทศจอร์เจีย โดยเธออ้างต่อศาลว่า ถูกบังคับให้ลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศไทย ผ่านดูไบ ไปยังจอร์เจีย ทำให้โลกออนไลน์ในไทยร้อนระอุ โดยเฉพาะหลังเพจ “ตามติดชีวิตแม่บ้านแขก” นำเสนอข่าวพร้อมแปลเป็นภาษาไทย พร้อมข้อความพาดพิงการทำงานของเจ้าหน้าที่ไทย

 

ล่าสุด ตม.ไทยไม่อยู่เฉย เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ได้ออกมาแถลงโต้ข่าวดังกล่าวผ่าน เพจ IMM2Gether ระบุว่า พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยกับสื่อมวลชน กรณีสำนักข่าว The Telegraph ประเทศอังกฤษ ลงข่าวว่ามีชาวต่างชาติชื่อ เบลลา เมย์ คัลลีย์ (Bella May Culley) ผู้ต้องหาคดีลักลอบขนยาเสพติด กล่าวอ้างกับศาลทบิลิซี ประเทศจอร์เจียว่า ตนถูกบังคับให้ขนยาเสพติดจากประเทศไทย ผ่านทางประเทศดูไบ ไปยังประเทศจอร์เจีย โดยตนได้พยายามแจ้งเจ้าหน้าที่ ตม.ขาออกของประเทศไทยเกี่ยวกับหนังสือเดินทางของตน แต่ไม่ได้รับความสนใจ

ในขณะเดียวกัน เพจ “ตามติดชีวิตแม่บ้านแขก” ได้นำภาพข่าวดังกล่าวมาโพสต์เป็นภาษาไทย โดยมีข้อความว่า
“ผู้ต้องหารายดังกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ ตม.ขาออกไม่สนใจ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับให้ตนขนยาเสพติดออกนอกประเทศ” ซึ่งเป็นข้อความกล่าวหาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ

พล.ต.ต.เชิงรณฯ ได้สั่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า ผู้ต้องหาเป็นชาวสัญชาติอังกฤษ เดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 เวลา 07.00 น. ด้วยสายการบิน Air Arabia เที่ยวบิน G9822 จากสนามบินสุวรรณภูมิ ปลายทางเมืองชาร์จาห์ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เครื่องออกเวลา 08.55 น.

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในขณะที่ผู้ต้องหาเดินผ่านช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (ABC) พบว่า ผู้ต้องหาเดินผ่านช่องตรวจไปโดยปกติ โดยไม่ได้มีการขอความช่วยเหลือใดๆ จากเจ้าหน้าที่ และไม่ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ ตม. หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดบังคับหรือข่มขู่ผู้ต้องหาให้ขนยาเสพติดออกนอกประเทศแต่อย่างใด

เชื่อว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงการกล่าวอ้างของผู้ต้องหาเพื่อบรรเทาโทษเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทาง บก.ตม.2 จะดำเนินการจัดทำบันทึกลงระบบ ตม. ว่าผู้ต้องหาดังกล่าวเข้าข่ายเป็นบุคคลต้องห้าม เนื่องจากมีพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่าเข้ามาเพื่อการค้ายาเสพติดให้โทษ ตามมาตรา 12(8) พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ต่อไป

ทั้งนี้ ยืนยันว่า ตม.สนามบินให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการสกัดกั้นคนเดินทางที่กระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ทั้งขาเข้าและขาออกระหว่างประเทศ ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ซึ่งที่ผ่านมามีการประสานงานร่วมกับหน่วยงานรับผิดชอบ ทั้งศุลกากร และ ป.ป.ส. โดยในส่วนของขาออก มีการสนับสนุนการจับกุมยาเสพติดร่วมกับศุลกากรขาออกนับ 10 ราย ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ท่ามกลางชาวเน็ตที่เข้ามาคอมเมนต์แชร์โพสต์ดังกล่าวจำนวนมาก 

ขอบคุณข้อมูลจาก IMM2Gether