หญิงวัย 50 คันขารุนแรงไม่ทราบสาเหตุ สุดท้ายหมอบอกป่วยมะเร็ง

หญิงวัย 50 มีอาการคันขาอย่างรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ หายาใกล้บ้านมากินไม่หาย กลับยิ่งรุนแรง สุดท้ายหมอบอกป่วยมะเร็ง
หญิงชาวจีนแซ่หลี่ วัย 50 ปี จากเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประสบอาการคันขาอย่างรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นอาการแพ้ผิวหนัง จึงซื้อยาแก้แพ้จากร้านขายยาใกล้บ้านมาใช้ แต่อาการกลับทรุดลงและลุกลามจนคันทั่วทั้งตัว ด้วยความกังวล เธอจึงตัดสินใจไปพบแพทย์ที่ศูนย์บริการสุขภาพในพื้นที่ ซึ่งแพทย์ตรวจพบสิ่งผิดปกติบริเวณตับจากการอัลตราซาวนด์ และสงสัยว่าอาจเป็นเนื้องอก จึงส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงแห่งที่ 2 เพื่อรับการตรวจเพิ่มเติม
ผลการตรวจพบว่าเธอเป็นมะเร็งตับระยะเริ่มต้น โชคดีที่ตรวจพบได้เร็ว แพทย์จึงสามารถผ่าตัดเนื้องอกออกได้อย่างทันท่วงที โดยอาการหลังผ่าตัดของเธออยู่ในเกณฑ์ดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการพักฟื้น ด้านแพทย์อธิบายว่า ความเสียหายของตับอาจส่งผลกระทบต่อระบบประสาท ทำให้เกิดอาการคันทั่วร่างกายอย่างไม่ทราบสาเหตุ เนื่องจากเส้นประสาทที่ผิวหนังจะส่งกระแสไปยังสมองส่วน Cerebral Cortex ซึ่งเป็นศูนย์รวมประสาทสัมผัส ทำให้เกิดความรู้สึกคันแม้ไม่มีสิ่งกระตุ้นภายนอก
ดร.หลี่ เสี่ยวเฉียง รองหัวหน้าแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป ได้ให้คำแนะนำว่า หากพบอาการผิดปกติบนผิวหนัง 4 ประการนี้ ควรรีบตรวจสุขภาพตับทันที ได้แก่ 1) คันผิวหนังเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ 2) ผิวและตาเหลืองจากการสะสมบิลิรูบิน 3) จุดแดงคล้ายใยแมงมุม (Spider Nevi) บนผิวหนัง และ 4) มีเลือดออกผิดปกติ เช่น เหงือกเลือดออก จุดเลือดบนผิว หรือเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งล้วนเป็นสัญญาณอันตรายที่อาจบ่งชี้ถึงปัญหาตับร้ายแรง
ข้อมูลจาก CTWANT

วิษณุ ยืนยัน แพทองธาร เข้าถวายสัตย์ฯได้ พร้อมอธิบายเหตุผล

แม่ทัพภาคที่2 ชวนคนไทยเที่ยว ปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาควาย

กรมอุตุฯ เตือน! ฝนตกหนักต่อเนื่อง ระวังน้ำป่าไหลหลาก-ดินถล่ม

บุกทลาย 2 เครือข่ายเว็บพนัน ในบุรีรัมย์ เงินสะพัด 1.8 ล้านต่อเดือน
