แรงงานได้เฮ! ขึ้นค่าแรง 400 บาท กรุงเทพฯ และธุรกิจทั่วประเทศ

ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท เริ่ม 1 ก.ค. 2568 ครอบคลุมทุกอาชีพใน กทม. และ 5 จังหวัดนำร่อง พร้อมขยายไปยังกลุ่มโรงแรม–สถานบริการทั่วประเทศ คาดแรงงาน 7 แสนคนได้ประโยชน์
"ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ" 400 บาท เริ่ม 1 กรกฎาคม 2568
การประชุมของ คณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 ครั้งที่ 6/2568 ได้มีมติ ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท มีผลตั้งแต่ วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มพื้นที่และประเภทกิจการ ดังนี้:
พื้นที่ที่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท "ทุกอาชีพ"
เริ่มมีผล ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2568 ตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง ฉบับที่ 13 แล้ว
ประกอบด้วย 5 พื้นที่:
จังหวัดภูเก็ต
จังหวัดฉะเชิงเทรา
จังหวัดชลบุรี
จังหวัดระยอง
อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
การประชุมของคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) ชุดที่ 22 ครั้งที่ 6/2568 ซึ่งมีกรรมการทั้ง 3 ฝ่ายครบการประชุม
ประกอบด้วย ฝ่ายนายจ้าง 5 คน, ฝ่ายลูกจ้าง 5 คน และฝ่ายราชการ 5 คน และมติ 2 ใน 3 พิจารณา ปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ปี 2568 ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
พื้นที่ใหม่ที่ประกาศเพิ่มค่าแรง 400 บาท "ทุกอาชีพ"
กรุงเทพมหานคร
เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2568
กลุ่มกิจการที่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ
มีผล เฉพาะในบางประเภทกิจการ ได้แก่:
- โรงแรมระดับ 2 ดาวขึ้นไป หรือ
- โรงแรมที่มี ห้องพักตั้งแต่ 50 ห้องขึ้นไป หรือมี ห้องอาหารในโรงแรม
- กิจการสถานบริการตาม พ.ร.บ. สถานบริการ เช่น: คาราโอเกะ , ค็อกเทลเลานจ์ , ร้านอาหารในสถานบันเทิง
สำหรับจังหวัดอื่นๆและอาชีพที่ไม่ได้ปรับขึ้นค่าแรง 400 บาทนั้น ในครึ่งปีหลัง 2568 ยังใช้อัตราค่าแรงขั้นต่ำ ตามประกาศเดิม ดังนี้
400 บาท (ทุกอาชีพ)ภูเก็ต ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง อ.เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี กทม. / (ทุกจังหวัด) เฉพาะกลุ่มกิจการโรงแรมตั้งแต่ระดับ 2 ดาวขึ้นไป ,กลุ่มสถานบริการ อาทิ คาราโอเกะ ค็อกเทลเลานจ์
380 บาท อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ และอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
372 บาท นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร
359 บาท นครราชสีมา
358 บาท สมุทรสงคราม
357 บาท ขอนแก่น เชียงใหม่ ยกเว้น อ.เมืองเชียงใหม่ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี
356 บาท ลพบุรี
355 บาท นครนายก สุพรรณบุรี และหนองคาย
354 บาท กระบี่ และตราด
352 บาท กาญจนบุรี จันทบุรี เชียงราย ตาก นครพนม บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ พังงา พิษณุโลก มุกดาหาร สกลนคร สงขลา ยกเว้นอำเภอหาดใหญ่ สระแก้ว สุราษฎร์ธานี ยกเว้นอำเภอเกาะสมุย และอุบลราชธานี
351 บาท ชุมพร เพชรบุรี และสุรินทร์
350 บาท นครสวรรค์ ยโสธร และลำพูน
349 บาท กาฬสินธุ์ นครศรีธรรมราช บึงกาฬ เพชรบูรณ์ และร้อยเอ็ด
348 บาท ชัยนาท ชัยภูมิ พัทลุง สิงห์บุรี และอ่างทอง
347 บาท กำแพงเพชร พิจิตร มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน ระนอง ราชบุรี ลำปาง เลย ศรีสะเกษ สตูล สุโขทัย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี
345 บาท ตรัง น่าน พะเยา และแพร่
337 บาท นราธิวาส ปัตตานี และยะลา
แรงงานที่ได้รับประโยชน์
คาดว่า มีแรงงานกว่า 700,000 คนทั่วประเทศ ที่จะได้รับค่าแรง 400 บาท จากการปรับครั้งนี้
การปรับขึ้นครั้งนี้ อยู่ระหว่างการเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา และเมื่อ ครม. เห็นชอบ จะมีการออกประกาศบังคับใช้โดยคณะกรรมการค่าจ้างอย่างเป็นทางการ
สรุป
- ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท เริ่มใช้ 1 ก.ค. 2568 ใน กทม. และขยายครอบคลุมโรงแรม-สถานบริการทั่วประเทศ
- พื้นที่หลักที่ใช้ 400 บาท “ทุกอาชีพ” คือ ภูเก็ต, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, เกาะสมุย และกรุงเทพฯ
- จังหวัดอื่นๆ ยังใช้ค่าแรงขั้นต่ำเดิมตามอัตราที่กำหนด
- มาตรการนี้ช่วยแรงงานกว่า 7 แสนคน