ย้อนไทม์ไลน์ "คดีน้องการ์ตูน" เหยื่อรถกระบะซิ่ง ก่อนจากไปอย่างสงบ

ย้อนไทม์ไลน์ "คดีน้องการ์ตูน" เหยื่อรถกระบะซิ่ง รอความยุติธรรมมา 11 ปี ก่อนจากไปอย่างสงบ ชาวเน็ตร่วมแสดงความอาลัย
ย้อนไทม์ไลน์ "คดีน้องการ์ตูน" เหยื่อรถกระบะซิ่ง โดยทางด้านเพจ ร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน Mother's Grill Steak House "ย่างด้วยรัก หมักด้วยใจ" ออกมาแจ้งข่าวเศร้าระบุว่า "ในวันพุธที่ 11 มิถุนายน 2568 เวลา 18:52 น. น้องการ์ตูนได้จากพวกเราไปแล้ว หลับให้สบายนะคนเก่ง ขอให้เป็นนางฟ้าบนสวรรค์คอยให้กำลังใจคุณแม่ต่อไป ขอให้ดวงวิญญาณไปสู่สุคติ และพบแต่ความสงบในภพหน้านะหนูการ์ตูน"
สำหรับกำหนดการพิธีรดน้ำศพและสวดอภิธรรมของ นางสาวภิญญารัศมี ศักดิ์สืบพรรณ (น้องการ์ตูน) ณ วัดราษฎร์บูรณะ บางปะกอก ศาลา 2
วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2568
- เวลา 13.00 น. เคลื่อนย้ายศพไปยังวัด
- เวลา 16.00 น. พิธีรดน้ำศพ
- เวลา 19.00 น. พิธีสวดอภิธรรม
วันที่ 13 - 18 มิถุนายน 2568
- เวลา 19.00 น. พิธีสวดพระอภิธรรม
วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน 2568
- เวลา 16.00 น. พิธีฌาปนกิจศพ
เพื่อร่วมแสดงความอาลัยและส่งดวงวิญญาณน้องไปสู่ภพภูมิที่ดี (เจ้าภาพขออภัยหากมิได้เรียนเชิญด้วยตนเอง)
ทางด้าน เพจ Drama-addict ออกมา "สรุปไทม์ไลน์ของคดีน้องการ์ตูนตั้งแต่ต้น" ระบุว่า...
19 กันยายน 2557
รถของคู่กรณี ขับโดย "น้ำผึ้ง ใจเสงี่ยม" ขับพุ่งชนร้านสเต็กลุงใหญ่ (ร้านของครอบครัวน้องการ์ตูน ณ เวลานั้น) คุณพ่อเอาตัวเข้าบังน้องการ์ตูน เสียชีวิตทันที น้องการ์ตูนได้รับบาดเจ็บสาหัส สมองเสียหาย 75% กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง
กลายเป็นข่าวที่ทำให้สังคมโกรธแค้นมากในเวลานั้น และกล้องวงจรปิดจับภาพได้เป็นรถสองคันขับแข่งกันมา
ปี 58 ศาลอาญาธนบุรี พิพากษาจำคุกน้ำผึ้งใจเสงี่ยม 1 ปี ให้ชดใช้ค่าสินไหมให้ครอบครัวแม่น้องการ์ตูน 6.5 ล้านบาท แต่ไม่มีการชดใช้เกิดขึ้นแม้แต่บาทเดียว
ปี 59 น้องการ์ตูนดูแลน้องการ์ตูนที่กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงอย่างใกล้ชิด และทำร้านสเต็กแม่น้องการ์ตูน หาเงินมาดูแลรักษาน้องเขา
ปี 61 ทาง รพ ที่รักษาแม่น้องการ์ตูน แจ้งขอให้ครอบครัวน้องชำระค่ารักษา เป็นเงินประมาณ 1.96 ล้านบาท ระหว่างที่น้องรักษาใน รพ ตลอด 6 เดือน โดยทางคู่กรณีจ่ายแสนเดียว แล้วหายไปเลย
แม่น้องการ์ตูนจึงขอความช่วยเหลือจากชาวเน็ต เพราะหากไม่ชำระค่ารักษา อาจถูกฟ้องร้อง หากถูกสืบทรัพย์ก็อาจถึงขั้นถูกยึดบ้านที่เป็นทรัพย์สินก้อนสุดท้ายไปชำระหนี้ โดยได้ทนายเกิดผล แก้วเกิด มาช่วยทำหนังสือประนอมหนี้ และพูดคุยกับทาง รพ ให้
จริงๆแม่น้องไม่อยากขอบริจาค ตอนนั้นแม่น้องบอกกับจ่าว่า กลัวคนจะหาว่าเอาน้องมาหากิน แต่ส่วนตัวจ่ากับชาวเน็ทก็เห็นว่า แม่น้องเขาทำมาหากินสู้มาตลอด ก็เลยแนะนำคุณแม่ว่ารับบริจาคน่าจะดีที่สุด หากคู่กรณีมันไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรเลยจริงๆ สุดท้ายแม่น้องการ์ตูนก็เปิดบัญชีรับบริจาค และปิดบัญชีเมื่อได้เงินไปจ่ายหนี้ทาง รพ ครบ
หลังจากนั้นชีวิตก็ดำเนินต่อไป ทางฝั่งแม่น้องการ์ตูนก็ทำมาหากินหาเงินดูแลน้องอย่างขยันขันแข็ง ส่วนฝ่ายคู่กรณี ไม่เคยจ่ายค่าเสียหายเลยแม้แต่บาทเดียว
ปัญหาคือระบบยุติธรรมของไทย เมื่อมีการพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหาย กลับกลายเป็นว่า ต้องเป็นหน้าที่ของครอบครัวผู้เสียหาย ต้องเป็นผู้สืบทรัพย์เอาเอง ไม่มีหน่วยงานไหนเข้าช่วยเหลือผู้เสียหายตรงนี้
แม่น้องการ์ตูนพยายามสืบค้นข้อมูล พบว่า คู่กรณี อ้างว่าไม่มีสินทรัพย์ แต่มีการโอนถ่ายทรัพย์สินให้ผู้อื่นถือครอง ต่อให้ฟ้องล้มละลายคู่กรณี ก็มีผลแค่ไม่กี่ปี ก็กลับมาใช้ชีวิตได้ดังเดิม
และเคยมีสื่อพาแม่น้องการ์ตูนไปออกรายการคุยกันเรื่องปัญหาของระบบยุติธรรมไทย ที่ไม่เป็นธรรมกับผู้เสียหายหลายครั้ง หลายครั้ง มีการสัญญาจากผู้หลักผู้ใหญ่ ว่าจะแก้ไขระบบให้เอื้อกับผู้เสียหายมากขึ้น แต่ทุกวันนี้ ก็ยังเหมือนเดิม เคสที่โดนแบบแม่น้องการ์ตูน ก็ยังมีอยู่เรื่อยๆ
ระหว่างนั้นน้องการ์ตูนมีปัญหาทางกายบ่อยครั้ง เพราะว่าน้องเขายังอยู่ในวัยที่กำลังเจริญเติบโต แต่กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงตั้งแต่อายุน้อย ทำให้มีปัญหากระดูกสันหลังคด และไปมีผลกับการหายใจของน้องเขา ทำให้มีปัญหาปอดบวมบ่อย
จนกระทั่งช่วงเมษา ปีนี้ น้องการ์ตูนมีอาการปอดบวมอย่างหนัก หลังจากรักษาได้ระยะนึง ทางครอบครัวได้คุยกับคุณหมอที่รักษาและสุดท้ายก็ตัดสินใจปล่อยน้องการ์ตูนไปอย่างสงบ
น้องการ์ตูนเสียชีวิตในวันนี้ และเรื่องราวของน้องเขา คือหนึ่งในหลักฐานที่แสดงให้เห็น ถึงช่องโหว่ของกระบวนการยุติธรรมไทย ที่โยนภาระในหลายๆด้านให้ผู้เสียหาย ที่เขาเดือดร้อนอยู่แล้ว ก็ยังไม่สามารถที่จะได้รับการชดเชยแม้ศาลจะมีคำตัดสินแล้วก็ตาม
และอีกประเด็นที่สำคัญคือ ความเชื่อเรื่องเวรกรรมตามสนอง น่ะไม่มีจริงหรอก ลองดูชีวิตของคู่กรณีสิ ว่าทุกวันนี้เป็นยังไง ถ้าเวรกรรมมีจริง มันต้องสนองไปนานแล้ว