ผบ.ทร. ยืนยันความพร้อมปกป้องแผ่นดินไทย ใครรุกล้ำต้องดันออก

ผบ.ทร. ลั่น แผ่นดินที่เป็นของไทย มันก็ไม่ควรจะให้มีใครเข้ามาใช้ประโยชน์ เมื่อเขาเข้ามาเราก็ต้องผลักดันออกไป
วันที่ 6 มิถุนายน 2568 พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้แถลงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากที่กองทัพเรือกัมพูชาประกาศเตรียมซ้อมรบด้วยกระสุนจริงใกล้กับเกาะกูด จังหวัดตราด โดยระบุว่า การซ้อมรบของกัมพูชาเป็นเพียงการแสดงออกถึงความพร้อมตามคำสั่งของรัฐบาล และไม่ควรตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ดังกล่าวอย่าไปตื่นเต้นตกใจว่าทำไมถึงมาแอ็คชั่นกันตอนนี้ ซึ่งการซ้อมรบของฝั่งไทยเราไม่ได้เพิ่งเริ่มทำ โดยมีการฝึกทุกปีและฝึกมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ถ้าทุกคนได้ติดตามการฝึกของกองทัพเรือ ก็จะเห็นภาพว่ามีการฝึกทั้งบนบก และต่อเนื่องที่ จ.นราธิวาส รวมถึงการฝึกยิงในทะเลอันดามัน ซึ่งถ้าเราเห็นว่าจำเป็นต้องมีอาวุธเพิ่มขึ้น และจัดหามาได้ทัน ก็จะเห็นการฝึกอีกฉากหนึ่งคือการใช้โดรนในการฝึก
พลเรือเอก จิรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทัพเรือไทยมีการฝึกซ้อมเป็นประจำทุกปี ทั้งบนบกและในทะเลอันดามัน รวมถึงการฝึกยิงอาวุธจริง และการใช้โดรนในการฝึกซ้อม โดยมีหน่วยหมู่เรือป้องกันชายแดน (ปชด.) ฉก.182 และหน่วยนาวิกโยธินป้องกันเกาะกูด ดูแลพื้นที่ชายแดนทางทะเลอย่างเข้มงวด
เมื่อถูกถามถึงความพร้อมในการสนับสนุนกองทัพบก หากมีการสั่งการให้ผลักดันทหารกัมพูชาที่ล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย ผบ.ทร. ยืนยันว่า กองทัพเรือมีแผนปฏิบัติการในทุกระดับ และพร้อมดำเนินการทันทีตามคำสั่งจากรัฐบาล โดยเน้นย้ำว่า "แผ่นดินที่เป็นของไทย มันก็ไม่ควรจะให้มีใครเข้ามาใช้ประโยชน์ เมื่อเขาเข้ามาเราก็ต้องผลักดันออกไป"
นอกจากนี้ ผบ.ทร. ยังได้กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์ภาพกับศาลาตรีมุข ซึ่งมีคนไทยบางส่วนอ้างว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ประเทศไทยเป็นผู้สร้าง โดยระบุว่า ไม่ขอก้าวล่วงในเรื่องนี้ แต่ในฐานะผู้บัญชาการทหารเรือ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ากองทัพเรือมีความพร้อมในการสนับสนุนกองทัพบกและกองทัพอากาศตามคำสั่งของรัฐบาล
ทั้งนี้ ผบ.ทร. ยังเปิดเผยว่า ในการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพเฉพาะกิจช่วงบ่ายวันนี้ จะมีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเตรียมความพร้อมของกองทัพให้เต็มที่ และประสานงานข้ามเหล่าทัพเพื่อให้การปฏิบัติการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งรัฐบาลไทยกำลังจับตาอย่างใกล้ชิด