ราชกิจจาฯ ประกาศ เพิ่มเงินสงเคราะห์ลูกจ้าง มีผลแล้ววันนี้

ราชกิจจาฯ ประกาศแล้ว เพิ่มเงินสงเคราะห์ลูกจ้าง จาก 60 เท่าของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายวัน เป็น 70 เท่า มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
มื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์ อัตราเงินที่จะจ่ายและระยะเวลาการจ่าย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ลงนามโดยนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
สำหรับสาระสำคัญของประกาศฉบับนี้ระบุว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์ อัตราเงินที่จะจ่ายและระยะเวลาการจ่าย พ.ศ. 2565 เพื่อขยายอัตราการจ่ายเงินสงเคราะห์จากกรณีนายจ้างไม่จ่ายเงินนอกจากค่าชดเชย สำหรับบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกจ้าง
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 134 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 คณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์ อัตราเงินที่จะจ่ายและระยะเวลาการจ่าย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568”
ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป)
ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในข้อ 15 แห่งระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์ อัตราเงินที่จะจ่ายและระยะเวลาการจ่าย พ.ศ. 2565 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 15 อัตราการจ่ายเงินสงเคราะห์จากกรณีนายจ้างไม่จ่ายเงินอื่นนอกจากค่าชดเชยตามข้อ 8 (2) หรือข้อ 8 (3) ให้จ่ายในอัตราไม่เกินเจ็ดสิบเท่า (70 เท่า) ของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายวันตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้างเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ระเบียบดังกล่าวได้มีผลบังคับใช้แล้ว โดยมีการปรับเพิ่มอัตราการจ่ายจากเดิม 60 เท่า เป็น 70 เท่าของค่าจ้างขั้นต่ำรายวัน เพื่อช่วยเหลือลูกจ้างที่ไม่ได้รับเงินค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด หรือค่าล่วงเวลาในวันหยุด ตามคำสั่งของพนักงานตรวจแรงงาน
มาตรการนี้จัดทำโดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและหลักประกันแก่ลูกจ้างให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน พร้อมยืนยันว่า ลูกจ้างจะไม่ถูกทอดทิ้งเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
ทั้งนี้ ลูกจ้างที่ต้องการขอรับเงินสงเคราะห์ภายใต้ระเบียบใหม่นี้ ต้องยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน และมีคำสั่งเป็นที่สุดภายหลังวันที่ระเบียบมีผลบังคับใช้ โดยพนักงานตรวจแรงงานในแต่ละพื้นที่มีหน้าที่ชี้แจงสิทธิให้ลูกจ้างเข้าใจอย่างทั่วถึง เพื่อให้เข้าถึงการคุ้มครองตามกฎหมายได้อย่างแท้จริง