กยศ. ปรับใหม่! ลดดอกเบี้ย 1% คืนเงินส่วนเกิน–ยกเลิกผู้ค้ำ

กยศ. ประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉบับใหม่ ลดดอกเบี้ยเหลือ 1% พร้อมคืนเงินส่วนเกิน และปลดผู้ค้ำประกันทันที เมื่อทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เดินหน้าเต็มกำลังตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 เพื่อลดภาระผู้กู้ยืมและส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา โดยได้ประกาศความคืบหน้าการดำเนินงานที่สำคัญหลายประการ รวมถึงการชี้แจงประเด็นการหักเงินเดือนเพิ่มเติม
. สาระสำคัญของ พ.ร.บ. ใหม่ เพื่อผู้กู้ยืม
หัวใจหลักของ พ.ร.บ. ฉบับใหม่ คือการปรับโครงสร้างหนี้ให้เอื้อประโยชน์ต่อผู้กู้ยืมมากขึ้น ประกอบด้วย:
. ลำดับการตัดชำระหนี้ใหม่ : เปลี่ยนเป็น "เงินต้น - ดอกเบี้ย - เบี้ยปรับ" แทนแบบเดิม
. อัตราดอกเบี้ยใหม่ : ลดเหลือเพียง 1% ต่อปี
. ลดอัตราเบี้ยปรับ : จากสูงสุด 18% ต่อปี เหลือเพียง 0.5% ต่อปี
. การปรับโครงสร้างหนี้ (Recalculation) : คำนวณยอดหนี้ใหม่และคืนเงินส่วนที่ชำระเกินให้แก่ผู้กู้ยืม
. ความคืบหน้าการดำเนินงานที่โดดเด่น
1. การปรับโครงสร้างหนี้ : ปลดผู้ค้ำประกันทันที
. ผู้กู้ยืมสามารถทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้เพื่อปลดภาระผู้ค้ำประกันได้ทันที
. สามารถผ่อนชำระคืน กยศ. เป็นรายเดือนในอัตราเท่ากัน ภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน โดยสามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 15 ปี (โดยเงื่อนไขผู้กู้ยืมต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ในงวดสุดท้าย)
. เมื่อชำระหนี้งวดสุดท้ายเสร็จสิ้น กยศ. จะมอบส่วนลดเบี้ยปรับเดิมที่ตั้งพักไว้ 100%
. ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 : มีผู้กู้ยืมทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้วรวมกว่า 598,334 บัญชี โดยแบ่งเป็นสัญญาแบบกระดาษ 261,110 บัญชี และสัญญาแบบออนไลน์ 337,224 บัญชี ผู้กู้ยืมสามารถทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ออนไลน์ได้ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ www.studentloan.or.th และยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD
2. การคำนวณยอดหนี้ใหม่ (Recalculation) : คืนเงินส่วนเกินกว่า 73 ล้านบาท
. กยศ. ได้ดำเนินการคำนวณยอดหนี้ใหม่ให้กับผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนจำนวน 3,835,213 บัญชี
. ผลการคำนวณพบว่า:
- ผู้กู้ยืมมียอดหนี้ลดลง: 3,548,016 บัญชี
- ยอดหนี้เท่าเดิม: 755 บัญชี
- ไม่มีหนี้คงเหลือ (ปิดบัญชี): 80 บัญชี
. มีผู้กู้ยืมมีสิทธิขอรับคืนเงินที่ชำระเกินจำนวน 286,362 บัญชี
. ปัจจุบันมีผู้กู้ยืมลงทะเบียนขอรับเงินคืนแล้ว 26,463 บัญชี และได้คืนเงินไปแล้ว 2,602 บัญชี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 73.70 ล้านบาท
. การคืนเงินจะดำเนินการผ่านระบบโอนเงินพร้อมเพย์ที่ผูกบัญชีธนาคารด้วยเลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น โดยแบ่งการคืนเงินเป็น 2 ส่วน (70% ในส่วนแรก และส่วนที่เหลือจะคืนเมื่อคำนวณหนี้ผ่านระบบ DSL แล้วเสร็จ)
. ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนสามารถตรวจสอบสถานะบัญชีและลงทะเบียนขอรับเงินคืนได้ที่ www.studentloan.or.th โดยคาดว่าจะได้รับเงินคืนภายในเดือนพฤษภาคม 2568 (หมายเหตุ: แอปพลิเคชัน กยศ. Connect ยังไม่รองรับระบบคำนวณหนี้ใหม่สมบูรณ์ และอยู่ระหว่างการพัฒนาเวอร์ชันใหม่)
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

"ปวดฟัน" ที่คิดว่าธรรมดา อาจเป็นสัญญาณ "โรคร้าย" ที่คาดไม่ถึง!

กินเส้นไหนบอกนิสัยนั้น! เปิดเผยนิสัยจาก "เส้น" ที่คุณชอบ!

ถึงเวลาทิ้งหรือยัง? ถุงเท้าของคุณ "ใช้นานแค่ไหน" ต้องเปลี่ยน!

เด็กชาย ป่วยโรคอ้วน หนัก 150 กก. ชอบกินดินแทนข้าว เสียชีวิตแล้ว
