เปิดคุณสมบัติ QBU‑10 ไรเฟิลจีนเจาะเกราะ ทหารเขมรถือโชว์ขู่ไทย

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2568 เพจ Army Military Force โพสต์ภาพทหารกัมพูชาถืออาวุธปืนไรเฟิลต่อต้านวัตถุ (Anti‑Materiel Rifle) แบบกึ่งอัตโนมัติ รุ่น QBU‑10 พร้อมระบุว่าเป็นอาวุธที่กัมพูชาได้รับจากประเทศจีน และถูกนำมาใช้งานในพื้นที่แนวรบพระวิหาร โดยภาพดังกล่าวอ้างว่าเผยแพร่มาจากเทเลแกรมของทหารกัมพูชา

 

 

สำหรับปืนไรเฟิล QBU‑10 หรือที่รู้จักในชื่อ Type 10 (Anti‑Material Rifle) เป็นอาวุธที่ผลิตโดยบริษัท Norinco ของจีน ใช้กระสุนขนาด 12.7x108 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับจีนและรัสเซีย เทียบเท่ากระสุน .50 Cal มีศักยภาพสูงในการโจมตีเป้าหมายยุทโธปกรณ์ขนาดใหญ่ เช่น ยานพาหนะติดอาวุธเบา ยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ เฮลิคอปเตอร์ที่บินต่ำ ระบบเรดาร์ และอุปกรณ์ทางทหารที่มีการป้องกันไม่สูง

ปืนรุ่นดังกล่าวมีน้ำหนักประมาณ 13 กิโลกรัม (ไม่รวมกล้องเล็งและกระสุน) ระยะหวังผลที่เชื่อถือได้ราว 1,000–1,500 เมตร และสามารถยิงได้ไกลสุดถึง 2,000 เมตร ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้กองทัพจีนมีขีดความสามารถเทียบเคียงกับปืน Barrett M82 ของสหรัฐอเมริกา

ด้านกลไกการทำงาน QBU‑10 ใช้ระบบแก๊ส (Gas Operated) ร่วมกับลูกเลื่อนแบบหมุน และลำกล้องที่ออกแบบให้เคลื่อนที่เพื่อลดแรงถีบ พร้อมลำกล้องลอยตัว (Free‑Floating) เสริมด้วยขาตั้งสองขา หูหิ้ว และศูนย์เล็งเหล็กบนโครงปืน ช่วยเพิ่มเสถียรภาพและความแม่นยำในการยิง

รายงานยังระบุว่า QBU‑10 มีความแม่นยำดีกว่า Barrett M82 เล็กน้อย ใช้ซองกระสุนแบบถอดได้ขนาด 5 นัด พร้อมระบบลดแรงถีบหลายรูปแบบ ทั้งปลอกลดแรงถีบที่ปากลำกล้อง แผ่นยางรองแรงถีบ และขาตั้งเดี่ยวด้านท้าย ทำให้การยิงมีความมั่นคงมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถถอดแยกชิ้นส่วนหลักเพื่อความสะดวกในการขนย้าย

ขณะเดียวกัน ปืนรุ่นนี้มาพร้อมกล้องเล็งหลัก YMA09 กำลังขยาย 8 เท่า ที่รวมระบบคำนวณวิถีกระสุนและเครื่องวัดระยะด้วยเลเซอร์ รวมถึงกล้องเล็งสำรอง QMH‑151A ซึ่งรองรับทั้งกลางวันและระบบภาพความร้อน (Thermal) ตลอดจนศูนย์เล็งเหล็กสำรองแบบพับได้ เพื่อรองรับการใช้งานในทุกสถานการณ์

 

 ขอบคุณ Army Military Force