ญาติร้องเพจดัง อาพลัดตกเขื่อนเจ็บหนัก หมอบอกแค่ปากถลอก สุดท้ายดับ

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. นางสาวชฎาธร โง่นหงษ์ อายุ 28 ปี หลานสาวผู้เสียชีวิต ร้องนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังอาพลัดตกเขื่อนไปหาหมอแต่หมอไม่รักษาต่อบอกว่าแค่ปากถลอก แต่ญาติพาไปอีกโรงพยาบาบเพื่อทำ CT Scan พบกระดูกคอหัก ทับเส้นประสาท รักษาสุดท้ายเสียชีวิต

นางสาวชฎาธร เล่าว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 68 ช่วง 23.00 น. นายปัน อายุ 50 ปี อาของเธอ ออกไปหาเพื่อนนั่งเล่นที่ริมสันเขื่อนริมคลองรังสิต ที่สูง 2 เมตร ก่อนจะพลัดตกสันเขื่อนใส่ดินที่อยู่ริมกำแพงเขื่อน จากนั้นกู้ภัยมานำตัวอาไปยังรพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ที่จ.ปทุมธานี ที่เป็นรพ.ตามสิทธิประกันสังคม แต่เวลาประมาณ ตี 4 ทางรพ.โทรศัพท์มาบอกญาติให้ไปรับตัวอา ที่รพ. โดยพยาบาลเวรฉุกเฉิน บอกว่า หมอแจ้งว่า อาการของนายปัน ไม่ได้มีอะไรมาก แต่มีแผลถลอกที่บริเวณลิ้น และปาก หยุดพักที่บ้าน 1 วัน ก็หายแล้ว ซึ่งตอนนั้น นายปัน พยายามบอกพยาบาลให้แอดมิดเพื่อขอรักษาและนอนดูอาการตามสิทธิประกันสังคม เพราะรู้สึกตัวชา แขนขาชา และขยับตัวไม่ได้ แต่ยังสามารถพูดคุยได้

ซึ่งพยาบาลกลับบอกว่า ให้กลับบ้าน ทำให้ญาติที่ไปรับ ต้องหิ้วปีกพาขึ่นรถส่วนตัว ออกมาจากรพ.เอกชน แต่ระหว่างทางเห็นอาการนายปันไม่ดี จึงพาไปหาป้าที่เป็นพี่สาวของนายปัน ที่มีลูกสาวเป็นพยาบาล เมื่อไปถึง ป้าเห็นสภาพนายปัน ก็ดูท่าไม่ดี ลูกสาวที่เป็นพยาบาลก็สอบถามอาการ จนแน่ชัดว่าอาการไม่ดีแน่ จึงพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ เมื่อไปถึงหมอรีบพาไปทำ CTScan ผลออกมาพบว่า “กระดูกคอหัก ข้อที่ 5 หัก ทับเส้นประสาท” จึงทำให้ไม่มีแรง ไม่มีความรู้สึกที่แขนและขา ทางโรงพยาบาลสมุทรปราการ จึงแจ้งกลับไปที่โรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม ว่าจะรับรักษาคนไข้ต่อหรือไม่ ถ้าไม่รับทาง รพ.สมุทรปราการ จะรับรักษาเอง เนื่องจากต้องผ่าตัดเชื่อมกระดูกคอโดยด่วน

ทางโรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม ตอบกลับมาว่า จะรักษาเอง จึงส่งรถพยาบาลมารับกลับไปแอดมิท และทำการผ่าตัดที่คอ รวมถึงมีการเจาะคอ แต่รักษาได้ 1 เดือน นายปันก็เสียชีวิต เมื่อวันที่ 24 เม.ย. แพทย์ลงความเห็นสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจาก “ไขสันหลังบาดเจ็บอย่างรุนแรง มีสภาวะแทรกซ้อนการติดเชื้อที่ปอด” ทำให้ญาติเกิดความไม่พอใจและตั้งคำถามถึงการประเมินอาการที่ผิดพลาดล่าช้า ทำให้การรักษาไม่ทัน จึงมาร้องขอความเป็นธรรมที่เพจสายไหมต้องรอด

นางสาวชฎาธร บอกอีกว่า เมื่อรพ.เอกชนนำตัวอากลับไปรักษาที่รพ.เธอก็ไม่ได้ถาม เพราะหมอพาตัวอาไปห้องฉุกเฉินทันที และรับการผ่าตัดรักษา จนนายปันเสียชีวิต ทำให้เธอและญาติติดใจกับทางรพ.เอกชน ที่ในครั้งแรก ที่ทำไมไม่รักษา บอกมาเพียงแค่ว่า เอ็กซเรย์ แล้วไม่มีอะไร ทั้งที่ผู้ป่วยแจ้งว่าแขนขาชาผิดปกติ แต่ยังกลับให้ผู้ป่วยกลับบ้าน มีการเคลื่อนย้าย ขยับร่างกาย ที่ส่งผลเป็นอันตรายต่อร่างกายและการรักษา

นายเอกภพ ระบุว่า หลังจากนี้ตนจะดำเนินการประสานไปทางกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะ นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสั่งการให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพให้ไปดูขั้นตอนการรักษา เพราะเชื่อว่าบุคลากรทางการแพทย์ไม่ต้องการให้คนไข้เสียชีวิตอยู่แล้ว แต่ต้องไปดูว่าขั้นตอนไหนผิดพลาด มีอุปกรณ์ หรือเทคโนโลยี อะไรผิดพลาดถึงตรวจไม่เจอตั้งแต่แรก ทั้งที่คนไข้อยู่ในอาการวิกฤติ แต่ รพ.สมุทรปราการ กลับพบเจอสาเหตุ โดยพรุ่งนี้ตนจะพาญาติผู้เสียชีวิตไปกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้หาคำตอบและให้ครอบครัวหายสงสัยในประเด็นนี้