เผยเหตุผล ศาลอาญา ยกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ "ทักษิณ" เดินทางไปกาตาร์

ไม่อนุญาตให้ "ทักษิณ ชินวัต"’ ออกนอกประเทศ เผยเหตุผล ศาลอาญา ยกคำร้อง หลังขอเดินทางไป กาตาร์ ตามคำเชิญของเจ้าผู้ครองนครรัฐกาตาร์
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ศาลอาญามีคำสั่ง "ยกคำร้อง" ไม่อนุญาตให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางออกนอกประเทศตามที่ยื่นคำร้อง ขอไปยัง ประเทศกาตาร์ ตามคำเชิญของ เจ้าผู้ครองนครรัฐกาตาร์ (Emir of Qatar) ระหว่างวันที่ 15-22 พฤษภาคม 2567 โดยศาลพิเคราะห์ข้อเท็จจริงตามทางไต่สวนแล้ว เห็นว่า จำเลยได้รับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์จากสำนักบริหารผู้รับเชิญ พระราชวังลูเซล ไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ประเทศการตาร์ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดี โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ อันมีลักษณะเป็นหนังสือเชิญส่วนตัว มิได้เชิญจำเลยในฐานะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนประจำปี 2568
ทั้งไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับกำหนดการที่แน่ชัด เพียงแต่คาดหมายว่าหากประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ มางานเลี้ยงดังกล่าวจำเลยจะมีโอกาสพบปะหารือกับประธานาธิบดี โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ และทีมเศรษฐกิจ เท่านั้น ประกอบกับ ช่วงที่ขอเดินทางไปอยู่ใกล้วันนัดพิจารณาคดีที่ศาลฎีกา และคดีนี้อาจกระทบต่อกระบวนพิจารณาของศาลได้ กรณียังไม่มีเหตุผลอันจำเป็นที่หนักแน่นเพียงพอที่จะให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร
โดยภายหลังฟังคำสั่ง นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายทักษิณ เผยว่า จากเมื่อวานที่ได้ยื่นคำร้องขอออกประเทศ เเละศาลมีคำสั่งในวันนี้ คือเรายื่นคำร้องขอไปประเทศกาตาร์เนื่องจากว่า เจ้าผู้ครองนครรัฐกาตาร์ มีหนังสือเชิญมายังนายทักษิณ ชินวัตรในฐานะที่เป็นประธานที่ปรึกษาของประธานอาเซียน
ซึ่งวันนี้นายทักษิณก็ได้ให้การต่อศาลว่า การที่ยื่นขอไปต่างประเทศครั้งนี้ไม่ได้เป็นการไปงานเลี้ยง แต่ไปเพื่อทำคุณประโยชน์ ใช้ประสบการณ์และความรู้ความสามารถเพื่อประเทศชาติสังคมและประชาชน
สังคมคงเห็นอยู่ว่าเหตุผลที่นายทักษิณขอไป ซึ่งหลายคนก็เห็นอยู่ว่ามาตรการและนโยบายของสหรัฐอเมริกาโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในเรื่องของการจัดเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศผู้ค้าและ การค้าหลายประเทศ โดยเป็นการเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่ได้รับผลกระทบกันทั่วโลก ประเทศไทยก็เป็น1 ในประเทศที่ได้รับผลกระทบ ดังนั้นนายทักษิณที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีและมีความเป็นห่วงใยประเทศชาติและเห็นผลประโยชน์ประเทศชาติอันสำคัญ
โดยนายทักษิณหวังทำเพื่อชาติบ้านเมือง จึงเป็นเหตุผลในการยื่นขอศาลในวันนี้ แต่อย่างไรก็ดี เมื่อศาลได้ไต่สวนและพิจารณาแล้วเห็นว่าการเชิญลักษณะนี้เป็นการเชิญแบบส่วนตัวและยังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจน
อาจจะเป็นเพียงการคาดหมายว่าไปแล้วจะได้พบกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ นี่คือสิ่งที่ศาลเห็นเราก็น้อมรับดุลพินิจศาล ที่เห็นว่าระยะเวลาในการยื่นขอซึ่งเราขอ เดินทางออกนอกประเทศในวันที่ 14 มิ.ย.ซึ่งใกล้กับกำหนดการพิจารณาคดีของศาลฎีกาฯนักการเมือง ในเรื่องการบังคับโทษชั้น 14 ซึ่งมีวันนัดพร้อมตรงกับวันที่ 13 มิ.ย. เมื่อศาลอาญาเห็นว่าวันนัดใกล้กันเราก็ยอมรับดุลพินิจ
นี่คือเหตุผลที่ศาลเห็นว่าไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะยังไม่อนุญาตให้ออกนอกประเทศ โดยทราบว่างานที่จัดที่กาตาร์ตนเข้าใจว่าเป็นเหตุที่จะได้มีโอกาสพบประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ซึ่งมีกำหนดการที่จะเดินทางไปที่การตาร์ โอกาสการได้พบไม่ใช่โอกาสของนายทักษิณคนเดียวแต่เป็นโอกาสของประเทศชาติ
เพราะหลายคนกำลังเฝ้าดูว่า จะมีโอกาสได้เข้าไปคุยหรือไม่ และหลายประเทศก็หวังว่าจะได้มีโอกาสเข้าไปเจรจากับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แล้วไทยไม่อยากจะได้เข้าไปเจรจาหรืออย่างไร
ส่วนที่นักข่าวถามว่า การที่ไม่ได้ออกไปเป็นอุปสรรคในการเจรจาเรื่องเศรษฐกิจและภาษีหรือไม่
นายวิญญัติระบุว่า คำถามนี้เป็นคำถามที่ตนอยากจะตั้งคำถามกลับไปอยู่ว่าการส่งออกหรือนำเข้าสินค้าในประเทศจะมีเรื่องภาษีที่เป็นปัญหา เราจำเป็นต้องหาข้อตกลง เพื่อที่จะลดเรื่องอัตราภาษีหรือกำแพงภาษีนี้ให้ได้ อันนี้เป็นแนวทางหนึ่งของการเจรจาทางการค้าที่ถามว่าจะเป็นอุปสรรคหรือไม่ อยากให้สังคมคิดเอา ว่าการที่มีบุคคลหนึ่งที่อยากจะทำเพื่อประเทศชาติและบุคคลหลายคนที่อยากจะทำเพื่อประเทศชาติ
เราถือว่าเป็นหน้าที่ของพลเมืองประชาชนคนไทยหรือไม่ส่วนเป็นอุปสรรคหรือไม่ตนไม่มีความเห็น แต่เห็นว่าถ้าเรามีโอกาสแล้วเราไม่ใช้โอกาส เราจะเสียโอกาสหรือไม่
ในส่วนเรื่องจะยื่นคำร้องหลังจากนี้อีกหรือไม่นั้นเป็นเรื่องอนาคตว่าจะยื่นคำร้องหรือจะใช้กระบวนการใดทางศาล ตามสิทธิ์ของจำเลยในคดี
เมื่อถามถึงรายละเอียดจากหมายของศาลฎีกานักการเมือง นายวิญญัติตอบว่าได้รับหมายแล้วตนเองในฐานะทนายความก็อยู่ระหว่างดู แต่ยอมรับว่ายังไม่ได้ดูในรายละเอียดมาก แต่ก็มีประเด็นที่ได้อ่านแบบเร็วๆ คือมีการคาดหมายว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยจริง หรือมีเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ ดังนั้นจึงมีคำถามกลับไปว่า ถ้าหากป่วยจริงแล้วจะทำอย่างไร คนที่ไม่มีหน้าที่รักษา จะทำให้คนป่วยหายป่วยได้หรือไม่ เมื่อป่วยแล้วก็จะต้องดำเนินการตามกระบวนการหรือกลไกของรัฐ
ดังนั้นการป่วยผมยืนยันมาตลอดไม่ต้องเชื่อตนก็ได้แต่ ขอให้เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นและมีหลักฐานจริง ใครจะคิดว่าไม่ป่วยจริงก็เรื่องของเขา สิ่งที่เราจะพิสูจน์ต่อศาลคือการพิสูจน์ตามสิทธิ์ศาลให้ชี้แจงเราก็ยินดีชี้แจงแล้วมั่นใจว่าสามารถชี้แจงได้
นายวิญญัติระบุต่อว่า หลักๆในหมายคือศาลมีคำถามว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องที่กล่าวอ้างเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ดังนั้นก็เป็นคำถามของตนในฐานะทนายความ ว่าในเมื่อศาลยกคำร้องของนายชาญชัย คำร้องดังกล่าวย่อมจะต้องตกไป แต่ถ้าศาลเห็นว่าเนื้อความในคำร้องยังอยู่แล้วศาลใช้อำนาจหรือกฎหมายใด อันนี้เป็นคำถาม
ซึ่งตนก็จะเขียนถามไปว่าการที่อ้างว่าใช้อำนาจตามมาตรา6 หรือ มาตรา 246 ก็ดี ขอถามว่ามันเขียนไว้ชัดเจนตรงไหน อันนี้คือข้อโต้แย้งในฐานะนักกฎหมายตนมีสิทธิ์ที่จะไม่เห็นด้วย
แต่ที่ศาลถามว่าข้อเท็จจริงนั้นเกิดขึ้นหรือไม่ก็หมายถึงข้อเท็จจริงของนายชาญชัยที่ยกมา ในเมื่อศาลไม่รับแล้วตีตกไปแล้ว เนื้อหามันควรจะตกไปด้วย เเละอำนาจในการบริหารโทษ ซึ่งปรากฏเป็นที่ถกเถียงกันในสังคมวิชาการของนักกฎหมายหลายคนว่าศาลใช้อำนาจเข้ามาก้าวก่ายหรือหรือศาลพยามที่จะมาล้วงลูกหรือไม่ ผมใช้คำถามนี้ เพราะเรื่องนี้เป็นข้อตกลงถกเถียงทางวิชาการตนไม่ได้ไปก้าวล่วงต่อศาล
เมื่อเป็นข้อถกเถียงทางวิชาการหรือทางนิติศาสตร์จึงเป็นข้อถกเถียงใหญ่ๆของคนในสังคมเอง ในบรรดานักกฎหมายเองก็ดีหรือผู้ที่ใคร่รู้ก็ดีว่าเราจะต้องดูว่าอำนาจนั้นจะต้องถูกตรวจสอบได้หรือไม่
อย่างที่เคยกล่าวไว้ว่าถ้าศาลมีคำสั่งให้ไต่สวน แล้วมีคนหนึ่งที่ไม่พอใจจำเลย หรือหน่วยงานอื่นที่ไม่เห็นด้วยหากศาลมีคำสั่งเราจะอุทธรณ์คำสั่งของศาลไปที่ใดได้เพราะคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วหรือไม่ แล้วมีกฎหมายใดที่ให้สิทธิเเก่ผู้อุทธรณ์ได้หรือไม่ ไม่มีกฎหมายมาเขียน ตนขอตั้งคำถามเรื่องการมาตรวจสอบคดีที่ถึงที่สิ้นสุดแล้วซึ่งเป็นเรื่องการบริหารโทษของกรมราชทัณฑ์
อย่างไรก็ดีเราก็ยอมรับอำนาจของศาล ว่าศาลมีสิทธิ์ที่จะตรวจสอบ แต่สิ่งเรานั้นเรานักกฎหมายและนักวิชาการก็จะต้องหาคำตอบ ข้อยุติในทางวิชาการและทางกฎหมายให้ชัดเจน
ในส่วนประเด็นเรื่องแพทยสภามีมติลงโทษหมอ ตนเข้าใจว่าเรื่องนี้ยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการของแพทย์สภาจะต้องเสนอต่อสภาที่ปรึกษาพิเศษที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน
ตนขอถามไปยังแพทย์สภาว่าจะมีมติอะไรเป็นความเห็นตนไม่ขอก้าวล่วงแต่มีแพทย์คนใดคนหนึ่งกล้าออกมาบอกหรือไม่ว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยถ้ามีคนกล้าขอให้ออกมาแถลงข่าวต่อสังคมได้เลย ถ้ายืนยันว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยจริงกรุณาออกมาบอกได้เลย
ดังนั้นการที่ถ้าสภามีมติจะลงโทษพักใบอนุญาตในเรื่องการแถลงข่าวหรือให้ข่าวไม่ตรงความเป็นจริงดุลพินิจที่จะตรวจสอบแพทย์ด้วยกัน แต่ที่ตนถามว่ากระบวนการที่เกิดขึ้นมันสมเหตุสมผลหรือไม่ ความเห็นของแพทย์เป็นไปตามมาตรฐานของวิชาชีพหรือไม่ สิ่งเหล่านั้นคือกระบวนการตรวจสอบทางวิชาชีพ
แต่ข้อเท็จจริงคือป่วยจริง ถ้าใครบอกไม่ป่วยจริง ขอคนที่เป็นแพทย์ออกมาบอก เพราะคนอื่นออกมาบอกอาจจะไม่รู้ หลายคนเคยมาออกทีวีพูดว่าไม่ป่วยจริง เเล้วที่ผ่านมาตนไม่ฟ้องเพราะหลายคนอาจจะไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ถ้าแพทย์ยืนยันว่าไม่ป่วยจริงก็อยากให้ออกมายืนยันเชิญเลยตนไม่ได้ท้า
ส่วนที่ว่าจะเอาประเด็นนี้ยื่นไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ก็ มีนักกฎหมายหลายท่านแสดงข้อคิดเห็นต่อสาธารณะในเรื่องของเขตอำนาจศาลซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่นักกฎหมายต้องศึกษาตอนเรียนกฎหมายอยู่เเล้ว
ในเรื่อง ของการขอส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในเรื่องเขตอำนาจศาลเรายังไม่มีเเนวทางชัดเจน ว่าจะทำหรือไม่แต่อย่างน้อยเราก็จะต้องชี้แจงต่อศาลและมีเหตุผลโต้แย้งคำร้องของนายชาญชัย
ในส่วนประเด็นที่ว่านายทักษิณอาจจะต้องกลับไปติดคุกหรือไม่นั้น ตนไม่ขอมีความเห็นว่าจะต้องกลับไปติดคุกอีกหรือไม่ คดีเราต้องไปดูว่ามันเริ่มต้นจากอะไร สิ้นสุดไปถึงส่วนไหน และมีการปฏิบัติอย่างไร เมื่อเริ่มต้นฃจากคำพิพากษา นั่นถือว่าเป็นกระบวนการรับโทษต่อไปถือว่าเป็นกระบวนการของการบริหารโทษมีกฎหมายใดที่บอกว่าบุคคลใด ผ่านกระบวนการเหล่านั้นแล้ว จะต้องกลับมารับโทษอีก ตรงนี้มันผิดหรือไม่
ดังนั้นการวิพากษ์วิจารณ์และการแสดงความเห็น ตนขอเชิญ ไม่ว่าจะเป็นนักกฎหมายหรือคนที่อวดรู้ ตนเป็นนักกฎหมายคนหนึ่งที่ไม่ได้เก่งกว่าใคร แต่การวิพากษ์วิจารณ์ใครควรอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงและไม่มีอคติ
ตนเชื่อว่าการที่ศาลอาญายกคำร้องศาลท่านก็ใช้อำนาจของท่านในการตรวจสอบ พิจารณาและเห็นว่าไม่เหมาะสม ไม่สมควร เราก็ยอมรับแต่เราจะใช้กระบวนการในการโต้แย้งอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งในอนาคตทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมาย
ส่วนที่จะขอไปสหรัฐอเมริกาโดยตรงหรือไม่ตนทราบ ยังตอบไม่ได้ส่วนการทำคำชี้แจงตนเพิ่งได้รับหมายเดี๋ยวก็ต้องดำเนินการให้ทันตามคำสั่งศาล
ที่ถามว่าทักษิณมีโอกาสจะเดินทางไปไต่สวนวันที่ 13 มิ.ย.นี้หรือไม่ ตนบอกเลยว่ามีโอกาสการไปศาลไม่ใช่เรื่องที่นายทักษิณปฏิเสธ ท่านกลับมาประเทศ ก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการรับโทษอยู่แล้ว หมายที่ส่งมาคือหมายนัดให้ส่งคำชี้แจงภายใน 30 วัน อย่างที่บอกถ้าหากชี้แจงไปแล้วศาลยังเห็นว่าควรจะต้องมีหมายเรียกให้ไปไต่สวนก็ยินดี ท่านก็ไม่ได้ปฏิเสธ ส่วนวันที่ 13 มิ.ย.นี้นายทักษิณจะต้องไปหรือไม่ตนไม่ขอตอบ เป็นอำนาจของศาล
เมื่อถามว่าที่ถามว่าหนักใจหรือไม่ตนเชื่อว่านายทักษิณผ่านอะไรมามาก 10 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างเยอะเชื่อว่าท่านเป็นบุคคลที่เข้มแข็งรักและห่วงใยประเทศชาติและประชาชนตนเชื่อว่าท่านผ่านไปได้

สีเสื้อวันเสาร์ 10 พ.ค. 68 สายมูห้ามพลาด ใส่เสื้อสีไหนเสริมเรื่องอะไร

เปิดไทม์ไลน์ หนุ่มถูกงูพิษแรงกัด หมอปล่อยกลับบ้าน ก่อนทรุดหนัก

"หวยฮานอยวันนี้" 9/5/68 หวยฮานอยวันนี้ออกอะไร ฮานอยล่าสุด 9/5/ 68

4 ราศี ดวงความรัก ความสัมพันธ์ และครอบครัว มีข่าวดีมาเยือน
