ข่าว

heading-ข่าว

หมอเจด เผยวิธีป้องกัน “มะเร็งปากมดลูก” คนไทย 1 คน เป็นทุก 15 นาที

03 พ.ค. 2568 | 12:59 น.
หมอเจด เผยวิธีป้องกัน “มะเร็งปากมดลูก” คนไทย 1 คน เป็นทุก 15 นาที

รู้ไหม? ทุก 15 นาที มีคนไทยเป็น “มะเร็งปากมดลูก” และเสียชีวิตทุก 2 ชั่วโมง! ทั้งที่เป็นโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนและการตรวจ หมอเจดเตือนผู้หญิงทุกคนต้องรู้ทัน!

ผู้หญิงจำนวนมากยังอาย ไม่กล้าไปตรวจมะเร็งปากมดลูก ทั้งที่ตอนนี้มี “ชุดตรวจด้วยตัวเองที่บ้าน” ได้แล้ว หมอเจดย้ำ! การรู้ก่อนคือโอกาสรอดชีวิต

"หมอเจดนพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า 

หมอเจด เผยวิธีป้องกัน มะเร็งปากมดลูก คนไทย 1 คน เป็นทุก 15 นาที

ข้อ 1: มะเร็งปากมดลูก—โรคที่ไม่ได้แค่ร้าย แต่ยังโดดเดี่ยว
มะเร็งปากมดลูก (Cervical Cancer) เป็นโรคร้ายที่ไม่ใช่แค่กระทบสุขภาพกาย…แต่มักกระทบ “ใจ” ด้วย เพราะหลายคนที่ป่วย บอกว่ารู้สึกเหมือนถูกสังคมตีตรา โดยเฉพาะคนที่อยู่ในความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นสามีหรือแฟน บางคนเริ่มตีตัวออกห่าง ไม่อยากอยู่ใกล้ ไม่ใช่เพราะไม่รัก แต่เพราะกลัว เพราะไม่เข้าใจ หรือเพราะคิดไปเองว่ามัน “ติดต่อได้ง่ายๆ” ซึ่งไม่จริง!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ บางรายที่เป็น จะมีอาการตกขาวผิดปกติ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ทำให้เพื่อน คนรอบข้าง เริ่มจับสังเกตและตีตัวออกห่าง บางคนถึงกับบอกว่า “กลิ่นมันเตะจมูกเลย” — ฟังแล้วสะเทือนใจ แต่คือความจริงของผู้หญิงจำนวนมากที่เจอ
ปัญหาคือ คนจำนวนมาก “ไม่กล้าไปตรวจ” เพราะอาย กลัวเจ็บ หรือรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความเสี่ยง สุดท้ายกว่าจะรู้ตัวก็เข้าสู่ “ระยะท้าย” แล้ว ซึ่งรักษายากและโอกาสรอดก็ลดลง
เพราะฉะนั้นอย่ารอให้สาย รู้ก่อน ป้องกันก่อน ดีกว่าแน่นอนครับ!

ข้อ 2: ทุก 15 นาที มีคนไทยเป็นมะเร็งปากมดลูก 1 คน
นี่ไม่ใช่สถิติขู่นะครับ แต่คือข้อเท็จจริงจากข้อมูลของกรมอนามัยและสถาบันมะเร็งแห่งชาติ — ประเทศไทยมีผู้หญิงป่วยเป็น “มะเร็งปากมดลูก” เฉลี่ย 1 คนทุกๆ 15 นาที และ เสียชีวิตทุก 2 ชั่วโมง! นั่นแปลว่าในแต่ละวัน เราอาจสูญเสียแม่ ลูกสาว หรือเพื่อนรักจากโรคนี้ถึง 10–12 คน!
สิ่งที่ทำให้โรคนี้ยังคร่าชีวิตได้มากขนาดนี้ ทั้งที่มัน “ป้องกันได้” คือความไม่รู้ ความไม่กล้า และการคิดว่า “เราคงไม่เป็นหรอก”
โรคนี้เป็นอันดับ 2 ของมะเร็งที่พบมากที่สุดในผู้หญิงไทย รองจากมะเร็งเต้านม และน่ากลัวกว่านั้นคือ พบมากในกลุ่มอายุ 30–55 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงาน วัยแม่ลูกอ่อน หรือแม้แต่วัยที่กำลังสร้างครอบครัว นั่นหมายความว่าไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลยครับ
ข่าวดีคือ ถ้าเราฉีดวัคซีน และตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ โอกาสเป็นโรคนี้จะ “ลดลงได้มากกว่า 90%” เลยทีเดียว!

ข้อ 3: เชื้อ HPV ตัวร้าย เกือบ 100% ของมะเร็งปากมดลูกมาจากมัน
ต้นเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูกไม่ใช่พันธุกรรม ไม่ใช่ของกิน…แต่มาจาก “ไวรัสเอชพีวี (HPV)” ซึ่งติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นหลัก และพบว่ามะเร็งปากมดลูก มากกว่า 99% มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อนี้!
เชื้อ HPV มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ แต่มีอยู่ราวๆ 14 สายพันธุ์ที่จัดเป็น “สายพันธุ์ก่อมะเร็ง” และในกลุ่มนี้ มีอยู่ 2 ตัวที่ร้ายที่สุดคือ:
• HPV-16 และ HPV-18: พบในผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกมากกว่า 70% ทั่วโลก
• นอกจากนี้ยังมี HPV-31, 33, 45, 52 และ 58 ที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยชาวเอเชีย
และที่หลายคนไม่รู้คือ HPV ไม่ได้ก่อมะเร็งแค่ปากมดลูกนะครับ! มันยังสามารถทำให้เกิด:
• มะเร็งปากช่องคลอด
• มะเร็งทวารหนัก
• มะเร็งช่องปาก และคอหอย
• รวมถึงหูดหงอนไก่ในอวัยวะเพศด้วย
ไวรัสนี้แพร่ได้ง่าย มีงานวิจัยว่าแม้แค่การสัมผัสภายนอกในบางกรณีก็สามารถติดเชื้อได้แล้ว ดังนั้นถ้าอยากลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด ต้องไปดูในข้อถัดไปครับ

ข้อ 4: วัคซีน HPV 9 สายพันธุ์—เกราะป้องกันที่ดีที่สุด
อยากลดความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 90–95%? “วัคซีน HPV” คือคำตอบ!
ปัจจุบันวัคซีนที่แนะนำคือแบบ 9 สายพันธุ์ (Gardasil 9) ที่สามารถป้องกัน HPV ได้ทั้งสายพันธุ์ก่อมะเร็ง (16, 18, 31, 33, 45, 52, 58) และสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดหูด (6, 11)
วัคซีนนี้แนะนำให้เริ่มฉีดตั้งแต่เด็กอายุ 9–14 ปี โดยฉีดแค่ 2 เข็มก็พอ และสามารถฉีดได้ทั้ง “เด็กผู้หญิงและผู้ชาย” เพราะผู้ชายก็สามารถเป็นพาหะได้เช่นกัน!
ในกรณีที่อายุมากกว่า 15 ปี หรือเคยมีเพศสัมพันธ์แล้วก็ยังสามารถฉีดได้ และยังได้ประโยชน์ในการป้องกันมะเร็งได้ เพียงแต่อาจต้องฉีดครบ 3 เข็มตามคำแนะนำแพทย์
วัคซีนนี้เป็นหนึ่งในวัคซีนที่ WHO แนะนำ และหลายประเทศบรรจุไว้ในวัคซีนพื้นฐานของเด็กแล้ว ดังนั้นอย่ารอให้มีอาการก่อน ถึงจะเริ่มป้องกันครับ เพราะเมื่อเป็นแล้ว “วัคซีนช่วยไม่ได้” แต่ถ้ายังไม่เป็น…วัคซีนคือกำแพงชั้นดี!

ข้อ 5: ตรวจคัดกรอง—ตรวจง่ายที่บ้าน ไม่ต้องอายหมออีกต่อไป
อีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดอัตราตายจากมะเร็งปากมดลูกคือ “การตรวจคัดกรอง”
ปัจจุบันมี 2 แบบหลัก:
1. Pap Smear – ตรวจเซลล์ผิดปกติ
2. HPV DNA Test – ตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส HPV (แม่นยำกว่า และตรวจได้ตั้งแต่ยังไม่มีเซลล์ผิดปกติ)
ข่าวดีคือ เดี๋ยวนี้สามารถ “ตรวจด้วยตัวเองที่บ้าน” ได้แล้ว โดยใช้ชุดตรวจเก็บสารคัดหลั่งจากช่องคลอด แล้วส่งตรวจทางห้องแล็บ วิธีนี้ช่วยให้คนไข้ที่เคยอาย ไม่กล้า หรือไม่มีเวลามาหาหมอ สามารถดูแลตัวเองได้ง่ายขึ้นมาก
หากผลตรวจปกติ และใช้วิธี HPV DNA Test สามารถตรวจซ้ำได้ทุก 5 ปี เลยทีเดียว!
การรู้ก่อน ไม่ใช่การเสี่ยง แต่คือ “การให้โอกาสตัวเองมีชีวิตที่ยืนยาว” และนี่คือสิ่งที่อยากให้ผู้หญิงทุกคนทำให้เป็นเรื่องปกติ เหมือนตรวจฟัน หรือฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เลยครับ

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

ไล่บี้จีนเทา บุกค้น 5 โกดังยึดเครื่องสำอางปลอม มูลค่ากว่า 4 ล้าน

ไล่บี้จีนเทา บุกค้น 5 โกดังยึดเครื่องสำอางปลอม มูลค่ากว่า 4 ล้าน

สาวสุดช้ำ น้าพาแม่ไปหมอสมุนไพรเถื่อน สุดท้ายดับ ไรัคนรับผิดชอบ

สาวสุดช้ำ น้าพาแม่ไปหมอสมุนไพรเถื่อน สุดท้ายดับ ไรัคนรับผิดชอบ

รู้แล้วใคร เผยโฉมหน้าคนสั่งเค้กเมียน้อย บอกเลยดีกรีไม่ธรรมดา

รู้แล้วใคร เผยโฉมหน้าคนสั่งเค้กเมียน้อย บอกเลยดีกรีไม่ธรรมดา

จักษุแพทย์ตอบเอง ผลลัพธ์แท้จริงการทำเลสิก ถึงว่าหมอหลายคนไม่ทำ

จักษุแพทย์ตอบเอง ผลลัพธ์แท้จริงการทำเลสิก ถึงว่าหมอหลายคนไม่ทำ

สุดสะเทือนใจ โจรใต้ปลิดชีพหญิงชราตาบอด 2 ข้าง ลูกพิการสมองโคม่า

สุดสะเทือนใจ โจรใต้ปลิดชีพหญิงชราตาบอด 2 ข้าง ลูกพิการสมองโคม่า