กลุ่มเปราะบางเฮ! กบง.ลดค่าไฟ 67.04 - 92.04 สต. ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย

24 มกราคม 2566

กบง. เอาใจกลุ่มเปราะบางลดค่าไฟกลุ่มเปราะบางใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย ตั้งแต่ 67.04 – 92.04 สต./หน่วย งวด ม.ค. – เม.ย. 66

กลุ่มเปราะบางเฮ! กบง.ลดค่าไฟ 67.04 - 92.04 สต. ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย งวด ม.ค. – เม.ย. 66

กลุ่มเปราะบางเฮ! กบง.ลดค่าไฟ 67.04 - 92.04 สต. ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย


 

ทางด้าน นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือลดค่าไฟฟ้าประจำเดือน ม.ค. – เม.ย. 2566 ซึ่งมีค่าเอฟที (Ft) เรียกเก็บที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยกลุ่มเปราะบาง ที่มีการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ประกอบด้วย  

  • ​​​​​​​จำนวนหน่วยไฟฟ้าที่ใช้  1-150 หน่วย ส่วนลดค่าไฟฟ้า 92.04 สตางค์ต่อหน่วย 
  • จำนวนหน่วยไฟฟ้าที่ใช้ 151-300 หน่วย ส่วนลดค่าไฟฟ้า 67.04 สตางค์ต่อหน่วย 

ทั้งนี้ ที่ประชุมประเมินว่ามาตรการช่วยเหลือในครั้งนี้จะมีผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 19.66 ล้านราย และคาดว่าจะใช้วงเงินช่วยเหลือประมาณ 7,500 ล้านบาท จากงบประมาณแผ่นดิน และงบที่ได้รับการจัดสรรโดยความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้ระเบียบและขั้นตอน เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติต่อไป
ส่วนผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มอื่นนั้น สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ได้มีการประกาศค่าไฟประจำปี 2566 งวด ม.ค.-เม.ย. ล่าสุด โดยระบุว่า 
 

ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ตรึงไว้ที่ราคาเดิมเท่างวดเก่า 4.72 บาทต่อหน่วย

ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น  ได้แก่ กิจการขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ โรงแรม กิจการไม่แสวงหากำไร สูบน้ำเพื่อการเกษตร ไฟฟ้าชั่วคราว(ระหว่าง ก่อสร้าง) คือ อุตสาหกรรม การค้า การเกษตร การบริการ ทั้งหมดจะมีค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่อัตรา 5.33 บาทต่อหน่วย  
โดยกลุ่มดังกล่าวนี้ ปรับลดลงจากเดิมที่ประกาศครั้งแรกต้องจ่าย 5.69 บาทต่อหน่วย แต่เมื่อมีการพิจารณาผลการคำนวณค่าเอฟทีเพิ่มเติมอีกครั้งหลังจากที่การไฟฟ้าฝาายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ทบทวนประมาณการราคาก๊าซธรรมชาติ ราคาน้ำมันดีเซล อัตราแลกเปลี่ยน และภาระหนี้คงค้างของ กฟผ. จึงได้ปรับลดเป็นราคาดังกล่าว 

โดยพน. ประเมินว่ามาตรการช่วยเหลือในครั้งนี้จะมีผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 19.66 ล้านราย และคาดว่าจะใช้วงเงินช่วยเหลือประมาณ 7,500 ล้านบาท จากงบประมาณแผ่นดิน และงบที่ได้รับการจัดสรรโดยความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้ระเบียบและขั้นตอนเพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติต่อไป

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.eppo.go.th หรือโทร. 02 6121555

หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน