กองสลากฯ ชี้แจงแล้ว หลังว่อนข่าว เปิดรับสมาชิกรับเลขล็อคจากภายใน

24 กรกฎาคม 2565

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ชี้แจงแล้ว หลังว่อนข่าว ส่งหนังสือโครงการทลายเจ้ามือหวยเถื่อนให้กับประชาชน พร้อมเปิดรับสมาชิกรับเลขล็อคจากภายใน

ตามที่ได้มีการเผยแพร่เอกสารในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องกองสลากฯ ส่งหนังสือโครงการทลายเจ้ามือหวยเถื่อนให้กับประชาชน พร้อมเปิดรับสมาชิกรับเลขล็อคจากภายใน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กองสลากฯ ชี้แจงแล้ว หลังว่อนข่าว เปิดรับสมาชิกรับเลขล็อคจากภายใน

 

กรณีที่มีการใช้ชื่อของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในการส่งเอกสารถึงประชาชนเพื่อแจ้งโครงการทลายเจ้ามือหวยเถื่อนให้สิ้นซาก ลดปริมาณเจ้ามือหวยเถื่อนและในเอกสารมีการระบุว่าต้องการที่จะช่วยประชาชนด้านการเงิน จึงเปิดรับสมาชิกเพื่อรับเลขล็อกจากภายใน ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าจดหมายดังกล่าวเป็นจดหมายหลอกลวงที่มิจฉาชีพจัดทำขึ้น เนื่องจากไม่มีผู้ใดทราบหมายเลขที่ออกรางวัลล่วงหน้าได้ เพราะการออกรางวัลของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐาน ISO 9001:2015 ที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

 

อย่างไรก็ตาม สำนักงานฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อการกระทำของกลุ่มมิจฉาชีพ โดยได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสืบสวนสอบสวนและรวบรวมหลักฐานเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ล่าสุด ผู้กระทำผิดที่ถูกจับกุมดำเนินคดี ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 20 ปี โดยไม่รอลงอาญา

กองสลากฯ ชี้แจงแล้ว หลังว่อนข่าว เปิดรับสมาชิกรับเลขล็อคจากภายใน

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กระทรวงการคลัง สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.glo.or.th หรือโทร. 0 2528 9999

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : จดหมายดังกล่าวเป็นจดหมายหลอกลวงที่มิจฉาชีพจัดทำขึ้น เนื่องจากไม่มีผู้ใดทราบหมายเลขที่ออกรางวัลล่วงหน้าได้ เพราะการออกรางวัลของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐาน ISO 9001:2015 ที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

ขอบคุณ Anti-Fake News Center Thailand

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews