กรมอนามัย ออกโรงเตือน กิน "หมึกช็อต" ดิบๆ ตามกระแส ระวังเสี่ยงโรคตามมาเพียบ!

12 กุมภาพันธ์ 2565

กรมอนามัย ออกโรงเตือน กิน "หมึกช็อต" ดิบ ๆ ตามกระแส เสี่ยง ระวัง แบคทีเรีย ปวดท้อง ท้องเสีย อาการอาหารเป็นพิษ กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ - พยาธิ คลื่นไส้ ท้องอืด ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด

จากกรณีกระแสการกิน "หมึกซ็อต" ที่กำลังฮิตอยู่ในโลกออนไลน์กลายเป็นไวรัลติ๊กต๊อกอยู่ในขณะนี้ ทำให้หลายคนต่างอยากลองว่ารสชาติมันเป็นเช่นไร จนร้านอาหารทะเลหลายแห่งต่างต้องมีเมนู"หมึกซ็อต"เข้ามาดึงดูดลูกค้าด้วย 

 

กรมอนามัย ออกโรงเตือน กิน  หมึกช็อต  ดิบๆ ตามกระแส ระวังเสี่ยงโรคตามมาเพียบ

ข่าวล่าสุด นายแพทย์ สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า หลังจากมีกระแสในการกินหมึกช็อต คือ การนำหมึกตัวเล็ก สดๆ เอาหัวจุ่มลงไปในแก้วที่บรรจุน้ำจิ้ม เพื่อให้หมึกดูดเอาน้ำจิ้มซีฟู้ดเข้าตัว จากนั้นกินหมึกโดยกัดส่วนหัว แล้วค่อยกัดหรือหั่นส่วนลำตัวกินต่อ หรือหากหมึกตัวเล็กพอ ก็อาจจะเอาเข้าปากกินทั้งตัวนั้น

พฤติกรรมการกิน "หมึกช็อต" ดังกล่าว อาจจะเสี่ยงได้รับเชื้ออหิวาต์เทียม หรือ Vibrio parahaemolyticus ที่เป็นเชื้อแบคทีเรียที่พบได้ตามโคลนตมในทะเลหรือตามชายฝั่งต่างๆ เมื่อกินสัตว์ทะเลที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป ก็จะทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย มีอาการอาหารเป็นพิษ หากรุนแรงมากๆ ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบได้อีกด้วย

กรมอนามัย ออกโรงเตือน กิน  หมึกช็อต  ดิบๆ ตามกระแส ระวังเสี่ยงโรคตามมาเพียบ

-หมอเตือนแล้ว "เมนูไวรัลยอดฮิต" หมึกช็อต จุ่มน้ำจิ้มซีฟู๊ด ระวังอาจติดเชื้อ
-สุดประทับใจ คุณตาวัย 86 "ซื้อทอง" ให้คุณยายวัย 82 ทำอมยิ้มกันทั้งโซเชียล!
-"พลอย ภัทรากร" เคลื่อนไหวแล้ว เมื่อความจริงปรากฎ ลั่นความจริงชนะเสมอ!

นอกจากเชื้อแบคทีเรียแล้ว หมึกหรือสัตว์ทะเลอื่นๆ เช่น กุ้ง หรือ หอย ก็อาจจะมีพยาธิอาศัยอยู่ด้วยไม่ว่าจะเป็นพยาธิตัวกลม ในกลุ่มพยาธิอะนิซาคิส (Anisakis spp.) พยาธิตัวตืดในกลุ่มพยาธิตืดปลา (Diphyllobothrium) เป็นพยาธิที่พบในปลาทะเลเขตอบอุ่น และเขตร้อน ซึ่งในประเทศไทยตรวจพบตัวอ่อนของพยาธิชนิดนี้ในปลามากกว่า 20 ชนิด ส่งผลให้ผู้ที่ได้รับพยาธิ มีอาการปวดท้อง แน่นท้อง คลื่นไส้ ท้องอืด คล้ายกับอาการของโรคกระเพาะอาหาร บางรายอาจมีอาการท้องเสีย หรือถ้ามีแผลในกระเพาะขนาดใหญ่ทำให้ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด รวมถึงอาจทำให้เกิดความผิดปกติกับร่างกายอื่น ๆ เช่น เข้าไปอาศัยตามกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดผื่นคัน ปวดบวมบริเวณผิวหนัง หรือเข้าไปชอนไชทำลายอวัยวะภายใน ทำให้เลือดออกในช่องท้อง หรือเนื้อเยื่อ หรือในกรณีที่รุนแรงกว่านั้น คือ การไชเข้าสมองก่อให้เกิดอาการเลือดออกในสมอง สมองอักเสบ และส่งผลเสียกับร่างกายในระยะยาวได้