สาวประชด อาบน้ำในกระบะเทปูน หลังซื้อบ้านหลักล้าน ห้องน้ำใช้งานไม่ได้

16 พฤศจิกายน 2564

สาวเหลืออด ซื้อบ้านหลายล้าน เข้าอยู่ห้องน้ำใช้งานจริงไม่ได้ อาบทีน้ำรั่วไหลลงเพดาน หวั่นถล่ม จนต้องงัดกระบะเทปูนมาใส่น้ำเป็นอ่างอาบแทน

จากกรณีที่เรียกว่าเป็นคลิปประชดประชัน ที่ได้ใจชาวเน็ตอย่างมาก เมื่อหญิงสาวรายหนึ่ง กำลังประสบปัญหาเรื่องบ้าน ทั้งที่ซื้อมาหลายล้าน แต่สภาพที่ได้กับไม่คุ้มเงินทีเสียไปโดยหญิงเจ้าของบ้านโพสต์ ระบุว่า...  ซื้อบ้านหลักล้าน แต่ต้องมาปวดหัวกับปัญหาที่ไม่จบไม่สิ้น พอดีซื้อบ้านโครงการดังแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี แล้วบ้านมีปัญหา เรื่องท่อระบายน้ำและหลายจุด ซื้อมาตั้งแต่ 31 พ.ค. 2564 อยู่มาได้ 5 เดือน มีรายการซ่อมไม่ต่ำกว่า 20 รายการ

 

สาวประชดอาบน้ำในกระบะเทปูน หลังซื้อบ้านหลักล้าน ห้องน้ำใช้งานจริงไม่ได้

โดยเดือนแรกเรียกซ่อมท่อประปา เพราะมีปัญหาน้ำไหลลงช้าอาบน้ำทีขึ้นมายันตาตุ่ม น้ำขัง เราก็แจ้งซ่อม ทุกเดือน น้ำขังในห้องน้ำบ่อย เธอบอกว่า 5 เดือนที่ผ่านมา ซ่อมไม่จบ ปัญหาหลักซ่อมพื้นห้องน้ำซ่อม 3 รอบ รอบละ 3 วัน ปวดหนักปวดเบาต้องขับรถไปเข้าปั๊ม อั้นจนทรมาน

 

สาวประชดอาบน้ำในกระบะเทปูน หลังซื้อบ้านหลักล้าน ห้องน้ำใช้งานจริงไม่ได้

 

- ผลชันสูตรออกแล้ว หนูน้อยลอยติดตอม่อสะพาน โดนแก๊งสาวหล่ออุ้มทิ้งน้ำ

- ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เคลื่อนไหวล่าสุด หลังโดนถล่มด่า ดราม่างานแต่งพี่สาว

- “คิง ก่อนบ่าย” งัดหลักฐาน ป้อง “ลิลลี่” หลังทัวร์ลง ใส่ชุดดำงานแต่งพี่สาว!

และในตอนนี้ประสบปัญหาคือ ห้องน้ำไม่มีใช้ชั้นล่างยังซ่อมไม่เสร็จถอดชักโครกไว้แล้ว ชั้นบนซ่อมแล้วแต่เกิดรอยรั่ว ถ้าเราอาบน้ำหรือใช้ห้องน้ำ น้ำมันก็จะรั่วลงมาข้างล่างซึ่ง ส่งผลกระทบให้เราไม่มีห้องน้ำใช้แล้วก็มีปัญหาการซ่อมตรงด้านอื่นๆ อีกหลายจุดที่ไม่ได้รับการแก้ไข

ส่วนปัญหาใหญ่ตอนนี้คือน้ำรั่วจากชั้นสองทำให้น้ำไหลลงมาใส่ฝ้าด้านล่าง ทำให้ข้าวของด้านล่างเสียหาย เครื่องใช้ไฟฟ้าโดนน้ำหยดใส่ ฝ้าไม่รู้จะพังลงมาเมื่อไหร่ อาบน้ำไม่ได้แล้วระแวงฝ้าจะหล่นใส่ทับลูกๆ หรือคนในครอบครัว โทรติดต่อไปทางโครงการก็ต้องใช้เวลานานมากในการติดต่อกลับ ซึ่งตนเองรอไม่ได้แล้ว ครอบครัวมีกันอยู่ 5 คน พร้อมหมาอีก 3 ตัว ลำบากมาก

สาวประชดอาบน้ำในกระบะเทปูน หลังซื้อบ้านหลักล้าน ห้องน้ำใช้งานจริงไม่ได้

สาวประชดอาบน้ำในกระบะเทปูน หลังซื้อบ้านหลักล้าน ห้องน้ำใช้งานจริงไม่ได้

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews