เปิดตัว "แคนซิโน" วัคซีนโควิด "สูดเข้าปอด" ครั้งแรกของโลก

15 พฤศจิกายน 2564

จีนเปิดตัววัคซีนโควิด-19 ชนิดสูดเข้าปอดครั้งแรกของโลก บ.แคนซิโน โชว์วิธีใช้วัคซีนโควิด-19 ง่ายๆเเค่กลั้นหายใจ5วินาที

จากกรณี จีนเปิดตัววัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดสูดเข้าปอดครั้งแรกของโลกในงานเอ็กซ์โปเกี่ยวกับอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ โดยวัคซีนแบบสูดเข้าปอดใช้ปริมาณวัคซีนเพียง 1 ใน 5 ของวัคซีนแบบฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
 

สำหรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดสูดเข้าปอดตัวแรกของโลกถูกจัดแสดงในงานแสดงสินค้า ไห่หนาน อินเตอร์แนชนัล เฮลพ์ อินดัสทรี เอ็กซ์โป ครั้งที่ 5  โดยวัคซีนตัวนี้ได้รับการพัฒนาโดยทีมของเฉิน เว่ย ผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่อของกองทัพ กับ บริษัทแคนซิโน ไบโอโลจิกส์ และเป็นวัคซีนแบบสูดเข้าปอดผ่านทางปาก

เเคนซิโนเปิดตัว วัคซีนโควิด"สูดเข้าปอด" ครั้งเเรกของโลก

ซึ่งสำนักข่าวซินหัว xinhuathai.com ได้มีการเปิดเผยคลิป ชวนชมการสาธิตวิธีใช้งานวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แบบสูดดมของบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพแห่งหนึ่ง ซึ่งเข้าร่วมงานมหกรรมอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพนานาชาติไห่หนาน ในมณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ทางตอนใต้ของจีน

เเคนซิโนเปิดตัว วัคซีนโควิด"สูดเข้าปอด" ครั้งเเรกของโลก

 

- บัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐปรับเกณฑ์คุณสมบัติใหม่ปี 65

- กัน นภัทร คุมอารมณ์ไม่อยู่ หลุดเหวี่ยงใส่ พีเค กลางรายการ หลังถามถึงคนใหม่

- โดนแล้ว! ขนส่งลงดาบ แท็กซี่ไล่ผู้โดยสาร เพราะไม่ขึ้นทางด่วน


 หยางเจิ้นตง พนักงานของแคนซิโน ไบโอโลจิกส์ (CanSino Biologics) อธิบายว่าแก้วพลาสติกมีไว้สูดละอองลอยของตัวยา ซึ่งออกมาจากเครื่องพ่นหลังกดปุ่มและรอราวสิบวินาที จากนั้นเราหายใจลึกๆ สูดละอองลอยเข้าไป กลั้นหายใจ 5 วินาที แค่นี้ก็เสร็จแล้ว  

เเคนซิโนเปิดตัว วัคซีนโควิด"สูดเข้าปอด" ครั้งเเรกของโลก

ซึ่งมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น ร่วมกันทดสอบทางคลินิคของวัคซีนต้านโควิด-19 ชนิดสูดเข้าปอดมาตั้งแต่เดือนก.ย. 2563 ขณะนี้การทดสอบทางคลินิคในขั้นที่ 2 ได้ผลลัพธ์เบื้องต้นแล้ว 

เเคนซิโนเปิดตัว วัคซีนโควิด"สูดเข้าปอด" ครั้งเเรกของโลก

ทั้งนี้ แคนซิโน ไบโอโลจิกส์ บริษัทผู้ผลิตวัคซีนสัญชาติจีน เปิดเผยว่ามีการยื่นขออนุมัติการใช้งานกรณีฉุกเฉินกับหน่วยงานทางการที่เกี่ยวข้อง สำหรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แบบสูดดมนี้แล้ว 

เเคนซิโนเปิดตัว วัคซีนโควิด"สูดเข้าปอด" ครั้งเเรกของโลก

ขอบคุณ
xinhuathai.com

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews