เผยผลวิจัยโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา อาจยุติใน 6 เดือน กลายเป็นโรคประจำถิ่น

27 กันยายน 2564

เผยผลวิจัย ชี้การระบาดโควิด-19 ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี "สายพันธุ์เดลตา" คลื่นลูกสุดท้าย ยุติใน 6 เดือน-1 ปี กลายเป็นโรคประจำถิ่น

  สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 64  ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics เผยถึงข่าวดีการระบาดโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา อาจเป็นคลื่นลูกสุดท้ายของการระบาดใหญ่ทั่วโลก โดยผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกเห็นตรงกันว่าการระบาดใหญ่ไปทั่วโลก (Pandemic) ของสายพันธุ์เดลตา กำลังปรับเปลี่ยนไปเป็นการระบาดแบบโรคประจำถิ่น (Endemic) ภายใน 6 เดือนหรือ 1 ปีหลังจากนี้

 โควิด-19 สายพันธุ์เดลตา

นิยามของ "Pandemic" (การระบาดใหญ่/ทั่วโลก) คือ โรคระบาดที่ระบาดทั่วโลก เช่น การระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์สเปนในปี 2461 (Spanish flu) การระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และล่าสุดการระบาดของโควิด-19 ไปใน +122 ประเทศทั่วโลก ในขณะที่ "Endemic (โรคประจำถิ่น)" คือ โรคที่เกิดขึ้นประจำในพื้นที่นั้น มีอัตราป่วยคงที่และสามารถคาดการณ์ได้ โดยขอบเขตของพื้นที่อาจเป็นเมือง ประเทศ หรือใหญ่กว่านั้นอย่างกลุ่มประเทศ หรือทวีป เช่น ไข้เลือดออกในประเทศไทย โรคมาลาเรียในทวีปแอฟริกา

 

ศาสตราจารย์ดาม ซาราห์ กิลเบิร์ต (Professor Dame Sarah Gilbert) ผู้บุกเบิกวัคซีนชนิดต่างๆมากมายรวมทั้งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ต่อต้านโรคโควิด-19  แห่งมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด กล่าวว่าโดยปกติหากเราพบว่าไวรัสมีการแพร่กระจายติดต่อระหว่างคนสู่คนได้อย่างรวดเร็วขึ้นมากเท่าไรก็จะมีความรุนแรงในการก่อโรคลดน้อยลงเท่านั้น (ภาพ 1)

ผู้เชี่ยวชาญเผยข่าวดี โควิด-19 สายพันธุ์เดลตา อาจยุติใน 6 เดือน กลายเป็นโรคประจำถิ่น

ซึ่งเราเห็นได้อย่างชัดเจนว่าไวรัสก่อโรคโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา มีการกลายพันธุ์ต่างไปจากไวรัสดั้งเดิม "อู่ฮั่น" มากกว่า 70 ตำแหน่ง มากกว่าทุกสายพันธุ์ของโควิดในโลกขณะนี้ ทำให้สามารถแพร่ระบาดไปอย่างรวดเร็วเหนือทุกสายพันธุ์ และเข้าแทนที่ทุกสายพันธุ์ในร่างกายมนุษย์จากทุกประเทศทั่วโลกโดยไร้คู่แข่ง (no competitor)   จึงไม่มีแรงกดดัน (pressure) ให้ต้องมีไวรัส  SARS-CoV-2 เวอร์ชันที่ร้ายแรงกว่าสายพันธุ์เดลตาอีก  (ภาพ 2-3)

ผู้เชี่ยวชาญเผยข่าวดี โควิด-19 สายพันธุ์เดลตา อาจยุติใน 6 เดือน กลายเป็นโรคประจำถิ่น

สายพันธุ์เดลตา แพร่ติดต่อไปอย่างรวดเร็วจะอ่อนแอลงตลอดเวลาและไม่น่าจะกลายพันธุ์ก่ออันตรายไปมากกว่านี้ เพราะหากมีกลายพันธุ์ อาทิไปเพื่อหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันไปมากกว่านี้อย่างในกรณีที่เกิดขึ้นกับสายพันธุ์เบตา ก็จะส่งผลให้โปรตีนหนามแหลมเปลี่ยนไปมากจนไม่สามารถจับกับเซลล์มนุษย์เพื่อเข้ารุกรานได้ดี อันจะส่งผลให้การติดต่อแพร่เชื้อลดลง (อย่างกรณีของเบตา) และถูกแทนที่ด้วยไวรัสที่ติดเชื้อได้รวดเร็วกว่า เช่น อัลฟา เดลตา และแกมมา  (ภาพ3)  

ผู้เชี่ยวชาญเผยข่าวดี โควิด-19 สายพันธุ์เดลตา อาจยุติใน 6 เดือน กลายเป็นโรคประจำถิ่น
 

ในอนาคตหากเราติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา ประเมินกันว่าจะมีอาการไม่รุนแรงเท่ากับการติดเชื้อเดลตาในปัจจุบัน โดยคาดว่าจะมีอาการคล้ายเป็นโรคไข้หวัดที่เกิดขึ้นตามฤดูกาลเท่านั้น


-กรมชลฯ ยัน อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ยังไม่แตก เตือนประชาชนอพยพ น้ำล้นสปิลเวย์
-พระวิสุทธิวงศาจารย์ กรรมการ มส.-อดีตเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ มรณภาพแล้ว
-ปทุมฯ แจ้งเตือนด่วนประชาชน ติดตามสถานการณ์น้ำ 24 ชม. หลังระดับน้ำเพิ่มสูง

 

ดร.สก็อตต์ กอตต์เลบ (Dr. Scott Gottlieb) อดีตกรรมาธิการขององค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา  ปัจจุบันดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริษัทผู้ผลิตยา Pfizer, Inc.   และเป็นสมาชิกของคณะกรรมการบริหารของบริษัท Illumina, Inc. ได้แสดงความเห็นว่าด้วยโมเดลทางคณิตศาสตร์ซึ่งคำนวณโดยอาศัยข้อมูลจากรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของไวรัส ข้อมูลประชากร  ข้อมูลระบาดวิทยา  ข้อมูลทางคลินิก ฯลฯ มาประกอบกันจากหลายภาคส่วนบ่งชี้ว่าการระบาดของคลื่นลูกที่สี่ (ในสหรัฐ) ซึ่งเกิดจากโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาเป็นตัวการหลัก อาจเป็นคลื่นลูกสุดท้ายของการระบาดใหญ่ (Pandemic) ของ COVID-19  หากไม่มีสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นมา คาดการณ์ว่าไวรัสก่อโรค COVID-19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งหมายความว่ามีอยู่ตลอดไป แต่แพร่เชื้อในอัตราที่ต่ำ และอาการไม่รุนแรง (ภาพ1)


สำหรับประเทศไทยจากข้อมูลการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของเชื้อ SARS-CoV-2  โดยศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดี คาดว่าไม่เกิน 6 เดือนหลังจากนี้สถานการณ์การติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์เดลตาจะดีขึ้น มีผู้ติดเชื้อ  ผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตลดลงเป็นลำดับ สังเกตจากการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ต่างๆ ในบ้านเราตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมา แต่ละสายพันธุ์จะมีการอุบัติขึ้น  คงอยู่  และดับสูญไป ในระหว่าง 3-6 เดือนไม่ยาวนานมากกว่านี้ (ภาพ 4)

 

ผู้เชี่ยวชาญเผยข่าวดี โควิด-19 สายพันธุ์เดลตา อาจยุติใน 6 เดือน กลายเป็นโรคประจำถิ่น

 

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

- คลื่นระลอกแรกเป็นคลัสเตอร์สนามมวยและสถานบันเทิง เป็นสายพันธุ์ “A.6” ระบาดระหว่าง ม.ค. 2563-ก.ค. 2563
- คลื่นระลอกสอง เป็นคลัสเตอร์โรงงานสมุทรสาครและตลาดปทุมธานี เป็นสายพันธุ์ “B.1.36.16” ระบาดระหว่าง ต.ค. 2563-พ.ค. 2564
- คลื่นระลอกสาม เป็นคลัสเตอร์สถานบันเทิงย่านทองหล่อ เป็นสายพันธุ์อัลฟา “B.1.1.7” ระบาดระหว่าง ม.ค. 2564-ก.ค. 2564
- คลื่นระลอกสี่ เป็นคลัสเตอร์แคมป์ก่อสร้าง เป็นสายพันธุ์เดลตา “B.1.617.2” ระบาดระหว่าง เม.ย. 2564-ปัจจุบัน  (ภาพ 4)


ซึ่งขณะนี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าคลื่นลูกที่สี่ "เดลตา" ในไทยกำลังอ่อนกำลังลง เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์เมืองหรือจังหวัด  การเพิ่มระยะห่างในการเข้าสังคม (social distancing) การมีผู้ติดเชื้อไวรัสตามธรรมชาติบวกกับผู้ที่ได้รับวัคซีนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีอัตราผู้ติดเชื้อรายใหม่  และผู้เสียชีวิตลดลงอย่างต่อเนื่อง (ภาพ 5)


จากการถอดรหัสพันธุกรรมทัังจีโนมของ SARS- CoV-2 ในไทยมีความเป็นไปได้สูงที่ “สายพันธุ์เดลตาหลัก” จะถูกแทนที่ด้วย สายพันธุ์เดลตาย่อย "AY.30”  ซึ่งพบมากในประเทศไทยและกัมพูชา  ซึ่งอาจจะเป็นเดลตาเวอร์ชั่นที่อ่อนกำลังลงปรับโหมดเข้าสู่การระบาดแบบโรคประจำถิ่น (Endemic) ซึ่งยังต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด


ข้อมูลจาก "GISAID" เดลตาสายพันธุ์ย่อย AY.30 ถูกถอดรหัสพันธุกรรมไปแล้วทั่วโลกจำนวนทั้งสิ้น 9,633  ตัวอย่าง พบในไทยคิดเป็นร้อยละ 33.3 ในขณะที่สายพันธุ์เดลต้าหลักตรวจพบจากการถอดรหัสพันธุกรรมในประเทศไทยคิดเป็นร้อยละ 66.7 เบต้า 11.1  และอัลฟา 5.6  (ภาพ 2)

 

 

ขอบคุณ FB : Center for Medical Genomics

 ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews