"ปี 68 คนไทยป่วยเพราะ PM2.5 ทะลุ 10 ล้าน เสี่ยงมะเร็งพุ่ง"

สถานการณ์ ฝุ่น PM2.5 ยังคงเป็นภัยสุขภาพสำคัญของคนไทย หลัง นพ.ศุภกร ตุลย์ไตรรัตน์ จากโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า ปี 2568 มีผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจาก ฝุ่นละออง PM 2.5 แล้วกว่า 10,000,000 คน ตัวเลขนี้ยังไม่รวมผู้เข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลเอกชน ทำให้ภาพรวมปัญหาฝุ่นยังคงน่ากังวล แม้ยอดผู้ป่วยจะลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า แต่ยังไม่ครอบคลุมทั้งปี


3 ระบบร่างกายที่โดนผลกระทบหนักสุดจาก PM2.5

แพทย์เผยว่า กลุ่มโรคทางเดินหายใจ ยังคงได้รับผลกระทบมากที่สุด เช่น หลอดลมอักเสบ หอบหืด และปอดอุดกั้นเรื้อรัง รองลงมาคือ โรคผิวหนัง เช่น ผื่นแพ้ และ ระบบตา ที่พบอาการตาแดงหรือเยื่อบุตาอักเสบ

แม้หลายเคสจะไม่รุนแรง แต่หากเป็นผู้ป่วยเดิม เช่น ผู้ป่วยหอบหืดหรือปอดอุดกั้น อาจถูกกระตุ้นจนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ นอกจากนี้ยังพบอาการเลือดกำเดาไหล หรือไอมีเลือดปน ที่เชื่อมโยงกับผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ด้วย

มะเร็งปอด: ภัยระยะยาวที่น่าจับตา

การสัมผัส PM2.5 ระยะยาว ถูกชี้ว่ามีความสัมพันธ์ชัดกับความเสี่ยงของ โรคมะเร็งปอด หลายประเทศยืนยันตรงกันว่า การเจอฝุ่นสะสมต่อเนื่องหลายปีจะเพิ่มโอกาสการเกิดโรค แม้ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีตรวจยืนยันสาเหตุที่จำเพาะเจาะจงจาก PM2.5 ได้ก็ตาม

หมอวอนแก้ที่ต้นเหตุ ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาปลายทาง

นพ.ศุภกรเน้นว่า หากต้องการลดผลกระทบด้านสุขภาพจริง รัฐต้องเร่งจัดการที่ ต้นเหตุของฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะปัญหาการเผาทางการเกษตร และการปล่อยควันจากเครื่องยนต์ พร้อมเสนอให้ผลักดันการใช้รถไฟฟ้า และวิธีทำเกษตรที่ไม่ต้องเผา


คำแนะนำประชาชนเพื่อเลี่ยง PM2.5

- หลีกเลี่ยงกิจกรรมนอกบ้านเมื่อค่าฝุ่นสูง

- ตรวจค่าฝุ่นก่อนเดินทางทุกครั้ง

- หากออกจากบ้านจำเป็น ควรใส่ หน้ากาก N95

- ใส่เสื้อแขนยาว–กางเกงยาว ลดสัมผัสผิวหนัง

- กลับถึงบ้านควรรีบอาบน้ำล้างฝุ่น

เปลี่ยนกิจกรรมนอกบ้านเป็นในร่ม เช่น วิ่งในฟิตเนส

หากมีอาการผิดปกติ ควรพบแพทย์ที่คลินิกมลพิษใกล้บ้านหรือออนไลน์


ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ