ตำรวจแถลง กรณีศูนย์บำบัดวัดท่าพุฯ ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรับผลประโยชน์

23 กันยายน 2564

ยังคงเป็นที่ติมตามกันมาต่อเนื่องกับศูนย์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด "วัดท่าพุราษฎร์บำรุง" ที่หมอปลาเช้าช่วยเหลือ ล่าสุดทางตำรวจได้ออกมาชี้แจงประเด็นมีเกี่ยวข้องรับผลประโยชน์

ยังคงมีประเด็นให้ติดตามกันต่อสำหรับ กรณี หมอปลา มือปราบสัมภเวสี ไลฟ์สดภารกิจบุกเข้าช่วยเหลือประชาชน 216คน รวมถึง กลุ่มผู้บำบัดที่บวชเป็นพระสงฆ์อยู่ภายในกุฏิอีกหลายสิบคน ที่วัดท่าพุราษฎร์บำรุง  อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี

โดยวันนี้ 23 ก.ย. 64 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ นายจิรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา พร้อมทนายความพาผู้เสียหาย ซึ่งเป็นอดีตผู้บำบัดจากศูนย์สงเคราะห์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ที่วัดท่าพุราษฎร์บำรุง ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ประมาณ 10 คน

ตำรวจแถลง กรณีศูนย์บำบัดวัดท่าพุฯ ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรับผลประโยชน์

ได้เดินทางมาเข้าร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวนบก.ป. เพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ดังกล่าว รวมทั้งมีการกล่าวพาดพิงถึงตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด เข้าไปมีส่วนในขบวนการพาผู้ป่วยส่งบำบัดเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ ว่า ตนได้ตรวจสอบไปยัง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ระบุว่า ตำรวจร้อยเอ็ดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการรับผลประโยชน์การนำผู้ป่วย หรือผู้เสพยาไปบำบัดรักษาที่วัดท่าพุราษฎร์บำรุง จ.กาญจนบุรี

ตำรวจแถลง กรณีศูนย์บำบัดวัดท่าพุฯ ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรับผลประโยชน์

โดยผู้ที่นำผู้ป่วยไปส่งเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือตำรวจ ซึ่งสถานบำบัดดังกล่าวมีการเรียกค่าใช้จ่ายตามปกติอยู่แล้ว ตรงนี้อาจจะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือไม่ตนไม่แน่ใจ แต่ก็จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจริงก็จะดำเนินการทางวินัยและอาญา ส่วนทาง ผบก.จว.กาฬสินธุ์ ยังไม่มีการชี้แจงรายละเอียดดังกล่าว

ตำรวจแถลง กรณีศูนย์บำบัดวัดท่าพุฯ ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรับผลประโยชน์

 

- หมอปลา ช่วยเกือบ 300 ชีวิตจากวัดท่าพุฯไปเขาชนไก่ เเฉจ่าย 2 หมื่นแลกบวชพระ
- ผู้บำบัด เปิดใจ เล่าช่วงถึงเวลาที่อยู่ในวัดท่าพุฯ กับสิ่งที่ต้องเจอ
- กรมคุมประพฤติ แถลงถึงศูนย์บำบัดดัง วัดท่าพุฯ ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบ

ตำรวจแถลง กรณีศูนย์บำบัดวัดท่าพุฯ ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรับผลประโยชน์

 ซึ่ง พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวต่อว่า ตามขั้นตอนของผู้เข้ารับการบำบัด มีด้วยกัน 2 ทาง คือ ผู้ถูกจับกุมและสมัครใจบำบัด หรือญาติผู้เสพเป็นผู้พาไปสถานบำบัดเองก็ได้ สำหรับที่ จ.กาญจนบุรีเข้าใจว่าเป็นทั้งสองกรณี ส่วนที่มีการนำผู้ป่วยจาก จ.กาฬสินธุ์ และจ.ร้อยเอ็ด มาถึงศูนย์บำบัดฯ กาญจนบุรี นั้น เป็นสิทธิของผู้ป่วย ทั้งนี้จากการสอบถาม ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ระบุว่าศูนย์บำบัดฯ ดังกล่าวมีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตามกรณีที่ศูนย์ฯ ถูกแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่กองปราบฯ ต้องให้ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียด 

ตำรวจแถลง กรณีศูนย์บำบัดวัดท่าพุฯ ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรับผลประโยชน์

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews