"สายป่าน"พร้อมทนาย เข้าฟังไต่สวนครั้งเเรก ฟ้องครูสอนดำน้ำหมิ่นประมาท

07 มิถุนายน 2564

สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข ดาราสาว พร้อมทนายเข้าฟังการไต่สวนครังแรกในคดียื่นฟ้องครูสอนดำน้ำ โพสต์เฟซบุ๊คหมิ่นประมาท ทำธุรกิจอุปกรณ์ดำน้ำเสียชื่อ เรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท

 7มิ.ย.64 ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นางสาว อภิญญา สกุลเจริญสุข หรือ "สายป่าน" ดาราสาว พร้อมทนาย ได้เดินทางศาลเพื่อเข้าฟัวการไต่สวนคดี หลังยื่นฟ้องครูสอนดำน้ำ โพสต์เฟซบุ๊คหมิ่นประมาท ทำธุรกิจอุปกรณ์ดำน้ำเสียชื่อ เรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท 

 

โดยสายป่าน ยอมรับว่า หลังเหตุการณ์ที่เกิด ทางคู่กรณีไม่เคยเข้ามาขอโทษ ไม่เคยติดต่อมาพูดคุยหรือไกล่เกลี่ย  ซึ่งถึงเเม้ว่าขณะนี้ชื่อเสียงของตนจะบ้าง เเต่เป็นเพียงด้านอื่น เช่นด้านการแสดงละคร  ตอนนี้ออนแออยู่ จึงทำให้คนยังไม่ลืมตน แต่ในเรื่องของความเสียหายทางธุรกิจก็ยังถือว่าได้รับผลกระทบอยู่ ผลประกอบการยังไม่ฟื้นกลับมาเหมือนเดิม  รับว่าก่อนหน้านี้ตนก็เคยรอว่าคู่กรณีจะติดต่อกลับมาบ้างหรือไม่  แต่เมื่อเวลามันผ่านมาขนาดนี้ตนก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเขาน่าจะเลือกเเล้ว ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกว่าเขาประวิงเวลา ถ้าถามในเรื่องของธุรกิจตนก็ยังไม่รู้สึกกลับมามั่นใจอะไรทั้งนั้น ถามว่ามั่นใจไหมด้านคดี ตนขอแค่เจอเขาก่อนเพราะตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่ยังไม่ได้เจอเขาเลยจนถึงวันนี้  ส่วนเรื่องผลต่างๆก็คงจะต้องขอให้เป็นเรื่องของศาลที่จะพิจารณา 

"สายป่าน"พร้อมทนาย เข้าฟังไต่สวนครั้งเเรก ฟ้องครูสอนดำน้ำหมิ่นประมาท


สำหรับคำขอโทษ ส่วนตัวมองว่าหากขอโทษตอนนี้ก็คงจะไม่ทันแล้วเพราะหากจะขอโทษก็ควรขอโทษตั้งแต่ในช่วงแรกแล้วและคิดว่าตัวเขาเองคงตัดสินใจแล้วว่าเขาจะเลือกวิธีไหน ถ้าเรื่องจบได้เงินมาจะทำยังไงต่อ นั้น ตนไม่ได้วางแผนเลยและคิดว่าคงจะต้องไปทำบุญสายป่านรับว่า ความจริงแล้วตนไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นด้วยซ้ำและก็ไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้น  แต่ในเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็คงต้องดำเนินการ 

  "สายป่าน"พร้อมทนาย เข้าฟังไต่สวนครั้งเเรก ฟ้องครูสอนดำน้ำหมิ่นประมาท   
ทั้งนี้หากเจอกับคู่กรณี ตนก็คงไม่มีอะไรจะพูด เพราะส่วนตัวก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน  แล้วเขาก็ไม่ใช่คนที่เธอเคยรู้จักหรือสนิทมาก่อนอยู่แล้ว  ดังนั้นเจอกันก็คงเป็นเหมือนคนแปลกหน้าที่เจอกันเท่านั้น คงไม่ได้คุยอยู่แล้ว  ก็คงจะดำเนินการไปตามคดี

    
สำหรับข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณานั้นตนมองว่า มีพี่ๆน้องๆในวงการบันเทิงเจอการคุกคามหรือการมาคอมเมนต์ในลักษณะที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จำนวนมากไม่เพียงแต่คนเพียงคนเดียว  ซึ่งหลายคนก็ถูกการพูดถึงคอมเม้นถึงในโลกโซเชียลมีเดียต่างๆ  ซึ่งทุกคนก็ดำเนินคดี  ตนจึงอยากให้รู้ว่าถึงแม้จะเป็นคนของประชาชนแต่ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถคอมเม้นหรือโจมตีจู่โจมเราได้จากทาง โซเชียลมีเดีย ควรจะคอมเม้นท์ดี คิดเยอะๆก่อนจะเขียนหรือพูดอะไรลงไป เพราะพวกตนคงไม่อยู่เฉยๆ  ซึ่งหากพวกตนรู้สึกว่ามีโอกาสหรือรู้สึกว่ามีการคุกคามพวกตนจริงๆ  เราก็เอาคืนเเน่นอน ทั้งนี้ตนเห็นว่าหลายๆคนเมื่อถูกแจ้งความดำเนินคดี ก็จะส่งข้อความมาขอโทษ  แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าทำไมถึงไม่คิดก่อนทำ  ก่อนทำอะไรก็ควรคิดให้เยอะๆหน่อย ส่วนตัวตนอยากทำธุรกิจตรงนี้ให้ดีที่สุด ซึ่งตอนนี้ต้องกอบกู้ชื่อเสียงกลับคืนมาก่อน ยืนยันจะเดินหน้าเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ธุรกิจนี้ตนทำคนเดียวแต่จดตั้งเป็นรูปแบบของบริษัท ซึ่งตนอยู่ในฐานะกรรมการบริษัทบริหารอะไรต่างๆคนเดียว แต่หลังเรื่องนี้เกิดขึ้นก็มีคนที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากเช่นพนักงานในบริษัทเป็นต้น

    
ด้านทนาย ระบุว่า วันนี้มาไต่สวนมูลฟ้อง  ก่อนหน้านี้มีการนัดไกล่เกลี่ย หลายครั้ง ทางตนเคยเปิดโอกาสให้เข้ามาคุย เเต่ทางคู่กรณีไม่มา บอกขออนุญาตติดต่อทางอินเตอร์เน็ตอิเล็กทรอนิกส์ ทางโทรศัพท์ ส่วนเจ้าหน้าที่ศาลก็ติดต่อไม่ได้ 

   
การนัดมาเจอครั้งนี้เป็นการไต่สวนนัดเเรก ก่อนหน้านี้ต้องเลื่อนเพราะคู่กรณีไม่มา เเละเพราะเหตุโควิด ทำให้ไม่เคยได้คุยหรือไกล่เกลี่ยกันเลย  เพราะเขาก็ไม่ได้มาแสดงตัวเพื่อแสดงความจริงใจหรือเพื่อต้องการไกล่เกลี่ย คู่กรณี ไม่เคยมีการติดต่อใดๆมาเลย   ซึ่งเมื่อคู่กรณีไม่ติดต่อมาไม่ยอมมาพบเจอไกลเกลี่ยประกอบกับเจ้าหน้าที่ศาลติดต่อไปก็ติดต่อไม่ได้  ก็เลยส่งเรื่องกลับขึ้นสู่บัลลังก์เพื่อที่จะไต่สวนมูลฟ้อง 
 

  
ทั้งนี้ตนมองว่าการนัดมาพูดคุยหรือไกล่เกลี่ย หรือ ได้พบเจอกันนั้นมันเป็นเรื่องของการแสดงความจริงใจว่าเขาพร้อมจะรับผิดชอบหรือเปล่า  ซึ่งจากที่ผ่านมาเราก็ไม่เคยเห็นในส่วนนี้ ยืนยันมีพยานหลักฐานชัดเจนเรื่องความเสียหายของสายป่านวันนี้จะมาไต่สวนมูลฟ้องก่อนหากไต่สวนแล้วศาลประทับรับฟ้องก็คงจะต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาต่อไป

"สายป่าน"พร้อมทนาย เข้าฟังไต่สวนครั้งเเรก ฟ้องครูสอนดำน้ำหมิ่นประมาท     
สำหรับหลักฐานนั้นยืนยันได้เพียงว่าชัดเจนแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากเป็นข้อมูลทางคดีแต่หลักฐานนี้จะเป็นในเรื่องของความเสียหายและความชัดเจนที่แสดงให้เห็นในเรื่องของการหมิ่นประมาททั้งนี้มีการเรียกค่าเสียหายด้วยยืนยันว่ายังเป็นจำนวน 5 ล้านบาท เหมือนเดิม 

       
มาถามว่าขณะนี้ธุรกิจเริ่มกลับมาเหมือนเดิมไหม เท่าที่ดูรายได้ผลประกอบการถ้าเทียบจากเมื่อก่อนก็ยังถือว่าแตกต่างกันมากยังคงลดอยู่ เพราะก่อนหน้านี้แม้จะเป็นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด เเต่ก็พบว่าบริษัทสายป่านก็ยังขายได้อยู่จนกระทั่งมาถึงเรื่องนี้  ซึ่งภายหลังจากเกิดเรื่อง มีหลักฐานยกเลิกจากลูกค้าจำนวนมากมีหลักฐานชัดเจน สำหรับแนวโน้มทางคดี เรียกว่าทางตนสู้เต็มที่ ก็คิดว่าจะได้รับความเป็นธรรมที่จะประทับฟ้องในครั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าถ้าขอโทษด้วยก็ดีแต่ก็ขอรับคำขอโทษเป็นเงินดีกว่าเพราะว่าสายป่านได้รับความเสียหายหนัก

   
กรณีนี้ได้รับผลกระทบส่วนหนึ่งมาจากพี่ทางบริษัทเเม่ที่ต่างประเทศด้วย ซึ่งทางบริษัทก็ส่งอีเมลล์กลับมาถ่มความคืบหน้าทางคดีเสมอ ว่าทำไมยอดตกแล้วคดีไปถึงไหน  ตนก็มีการส่งอีเมลล์ตอบกลับไปชี้แจงเป็นระยะ ต้องบอกว่าจากเดิมธุรกิจเคยขายดีมากแต่พอมาเจอเรื่องนี้ ยอดตกลงไปเยอะมาก

     
สอบถามความเสียหายของผลประกอบการทั้งหมด  ตนไม่ทราบแต่รายได้ที่ลดลงก็ทำให้บริษัทเขาถามมาว่าทำไมธุรกิจยังไม่ฟื้นเลย  ทางนี้เป็นยังไงบ้าง ตนก็ได้แจ้งไปว่าทางประเทศไทยมีคลัสเตอร์ใหม่โควิดระลอก 3 แล้ว ทำให้การดำเนินการทางคดีล่าช้า  ยังไม่มีการพิสูจน์ความจริง ซึ่งหากศาลประทับรับฟ้องแล้วทางบริษัทใหญ่เขาอาจจะส่งพยานเข้ามาร่วมขึ้นศาลด้วย 

"สายป่าน"พร้อมทนาย เข้าฟังไต่สวนครั้งเเรก ฟ้องครูสอนดำน้ำหมิ่นประมาท    
ทั้งนี้หากคู่กรณียืนยันอยากจะไกล่เกลี่ยตนก็ขอรับคำขอโทษเป็นเงินก็ให้ลองเข้ามาคุยกันดู ซึ่งหากเขาแสดงความจริงใจและยินยอมชดใช้ค่าเสียหายที่สมเหตุสมผลคุยกันได้ก็อาจจะจบภายในวันนี้

     ตนมองว่า ถ้าหากคู่กรณีจริงใจตั้งแต่ครั้งแรกก็จะจบเร็วเพราะทางเราเปิดโอกาสตลอด  แต่ครั้งนี้หากจริงใจด้วยก็ต้องมีค่าเสียหายมาด้วยเหมือนกัน