สาวรีบจัดลืมพกหน้ากากอนามัยไปรพ. ถามขอกับนางพยาบาลแต่กลับโดนชักสี

10 เมษายน 2564

สาวตกใจแรงรีบไปโรงพยาบาลเลยลืมพกหน้ากากอนามัยไปด้วย จึงไปถามจากนางพยาบาลว่าพอมีมั้ย ก่อนได้คำตอบว่า "อ้อ..ที่นี่ไม่ได้มีบริการบริจาคแมสก์นะคะ ต้องซื้อใช้เอง"

กลายเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ชาวเน็ตให้ความสนใจอย่างมาก เมื่อชาวเน็ตได้กระหน่ำคอมเม้นต์โพสต์ของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่ได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรีแต่กลับเจอเหตุการณ์ที่นางพยาบาลหน้าบอกบุญไม่รับ ทั้งๆ ที่เธอถามดีๆ แล้ว

 

โดยเธอเล่าว่า "หมอซักประวัติหน้าห้องฉุกเฉินปากดีไปนะบางที แค่ไปถามว่า หมอคะ มีแมสก์มั้ยคะหนูขอแมสก์หน่อยได้มั้ยคะ คุณพยาบาลคนสวยตอบมาว่า "อ้อ..ที่นี่ไม่ได้มีบริการบริจาคแมสก์นะคะ ต้องซื้อใช้เอง" อี...กูถามเพราะกูเห็นมึงเป็นโรงพยาบาล


กูคิดว่ามึงจะมีไงอี...น้ำเสียงมึงนี่ส่อมารยาทเลยนะ ที่เรียนมาเค้าไม่สอนหรอคะจรรยาบรรณอ่ะ หน้าตาก็ดีนะแต่ปากหนิ อีป้าข้างบ้านมากค่ะ อย่ามาเป็นเลยค่ะ พยาบาลอ่ะลาออกไปเหอะ ที่โมโหเพราะกูถามดีมากแต่น้ำเสียงและคำตอบที่ได้มาคือเอิ่มมม เฮงซวยอีเวร!!


ปล.ถ้ายังไม่จวนตัวจริงๆไม่ต้องมาเด้อโรงพยาบาลนี้ส่วนใหญ่ดีมาก มีแค่ส่วนน้อยที่ทำตัวต่ำ คำพูดต่ำแบบนี้ #เมื่อวานกูมาเฝ้าพ่อก็รอบนึงแล้วค่ะ ตะคอกใส่คนแก่ งงมากอี...ทะเลาะกับผัวมาหรอ??"

สาวรีบจัดลืมพกหน้ากากอนามัยไปรพ. ถามขอกับนางพยาบาลแต่กลับโดนชักสี

งานนี้ทำให้ชาวเน็ตได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างต่อเนื่อง บ้างก็เข้ามาคอมเม้นต์ว่า สาระสำคัญของเรื่องนี้ไม่ใช่อยู่ที่ว่ามีหรือไม่มีแมสก์แจกฟรีนะครับ มันอยู่ที่น้ำเสียงสีหน้าการกระทำกับประโยคปฏิเสธที่ตอบนะครับ


ตอบดีๆ ภาษาสุภาพก็ได้นี่ครับเพราะคุณเป็นพนง.รพ.ต้องรองรับการให้บริการของคนที่มารับการรักษานี่ครับ เช่น "ไม่มีค่ะรพ.ไม่มีแมสก์ให้นะคะ รบกวนเตรียมมาเองหรือไปหาซื้อเองได้ที่ร้านสะดวกซื้อนะคะ" แค่นี้ปัญหาก็ไม่เกิดขึ้นแล้วอ่ะครับ!! 


จะตอบเหน็บแนมกระทบกระแทกไปเพื่ออะไรกันครับ อีกอย่างต้องเข้าใจด้วยว่าญาตินำคนป่วยมาห้องฉุกเฉินนี่ต้องเกิดเหตุการณ์วิกฤตเร่งด่วน อาจจะด่วนและรีบจนไม่ได้นึกถึงแมสก์ที่จะต้องใส่มาเลยก็เป็นไปได้ 


ใครที่เคยเจอเรื่องวิกฤตเร่งด่วนที่ต้องพาคนป่วยมารพ.จะเข้าใจดีครับ ผมเองเคยพาคนป่วยวิกฤติมาส่งรพ.โดยใส่กางเกงขาสั้นแค่ตัวเดียวยังเคยเลยครับ

สาวรีบจัดลืมพกหน้ากากอนามัยไปรพ. ถามขอกับนางพยาบาลแต่กลับโดนชักสี