หนุ่มไม่สนคำเตือนชาวบ้าน ตัดสินใจขี่จยย."ขึ้นแม่กำปองกลางดึก"

10 มีนาคม 2564

หนุ่มไม่สนคำเตือนชาวบ้าน ตัดสินใจขี่จยย."ขึ้นแม่กำปองกลางดึก"ก่อนเจอเรื่องราวที่ลืมไม่ลง เสียงหัวเราะ และเสียงคนวิ่งตามนั้นเป็นของใคร?

ไม่ว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหน ควรจะศึกษาเส้นทางการเดินทางให้ดี และที่สำคัญ ถ้าคนท้องถิ่นเตือนอะไรเราก็ควรจะรับฟัง เพราะอาจจะพบกับเรื่องราวของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่ตัดสินใจขี่จยย.ลุยเดี่ยว ขึ้น"แม่กำปอง"ช่วงกลางคืน โดยไม่ฟังคำเตือนชาวบ้าน จนเจ้าตัวต้องเจอเรื่องราวที่ลืมไม่ลง โดยมีเนื้อหาว่า 

...

ว่าจะไม่พูดและพยายามลืมไม่เล่าให้ใครฟัง

หลังจากที่ผมไปแม่กำปองมีคนทักมาหาผมเยอะมากว่าอยากไปบ้าง ขอรีวิวเลยครับเป็นที่ที่เหมาะมากๆสำหรับไปพักผ่อนแบบพักผ่อนจริงๆ

#แต่อย่าขึ้นทางแจ้ซ้อนผมขอเตือนเลยถ้าไม่อยากเจอแบบผม

#ถ้าจะไปแม่กำปองแนะนำให้ขึ้นทางสันกำแพงนะครับอย่าเชื่อGPS

ถ้ามีคนสนใจอยากรู้ว่าผมเจออะไรทักมาครับผมจะเล่าให้ฟัง

————————————————————————————————————

 

คือตอนที่ผมไปแม่กำปองออกจากพิษณุโลกเที่ยงกว่าแล้ว กะ ว่าไปถึงแม่กำปองซัก5-6โมงเย็นแล้วไปกางเต็นท์แต่สรุป รถเวสป้ามันต้องขี่ไปพักไป ไหนจะของที่แบกมาชอบตกอีกเลยทำให้กินเวลานาน

 

#ตัดมาตอนที่ถึงแถวๆทางขึ้นเลยละกัน

มันจะมีเซเว่นอยู่แถวๆทางแยกก่อนถึงทางขึ้นแม่กำปอง ผมเลยเข้าไปซื้อของเพิ่มเติมเพื่อที่จะเอาไปตั้งแคมป์ พอช่วงที่กำลังจะจ่ายตังค์ผมก็ได้ถามพี่พนักงานเซเว่นว่า “พี่ครับแม่กำปองนี่ไปอีกไกลไหม”

พี่พนักงาน เค้าก็บอกว่าประมาณ50กว่ากิโล แต่พี่แนะนำให้น้องหาที่นอนแถวนี้ก่อนแล้วตอนเช้าค่อยขึ้นไปแม่กำปอง

“ผมเลยถามพี่เค้าไปว่าทำไหมหรอครับพี่ “

พี่พนักงานเค้าบอกว่าทางขึ้นมันมืดมากโค้งเยอะมีเหวลึกด้วยมีคนตายบ่อย แล้วก็ไม่มีไฟส่องสว่างเลยซักดวงนะน้อง เมื่อไม่นานก็พึ่งมีรถนักท่องเที่ยวตกลงไปในเหวมันอันตรายมากนะน้องแล้วน้องมาคนเดียวด้วยพี่ว่ารอขึ้นตอนเช้าจะดีกว่า “ทำไมน้องมาทางนี้หละปกติไม่ค่อยมีคนมานะ” เค้าขึ้นทางสันกำแพงกัน

(ผมตามGPSมาครับพี่) 

#ด้วยความที่เป็นผมไงคิดในใจเอาว้ะมาขนาดนี้แล้วมันจะซักแค่ไหนคงไม่แย่ขนาดนั้นหรอก

 

ขี่รถออกมาได้ซักพักนึงจนถึงทางแยกขึ้นแม่กำปอง

#ฝั่งแจ้ซ้อน.ผมก็คิดในใจว่าโห!!

ทางแค่นี้เนี้ยนะ!!! ที่พี่เค้าบอกว่าน่ากลัว??!!

#ตอนนั้นเฉยๆมากเพราะมันไม่มีไฟก็จริงแต่มันยังมีบ้านคนอยู่

ก็เลยบิดรถขึ้นไปเรื่อยๆ

ประมาณ10กิโล แรก จากทางแยกที่ขึ้นมา

บ้านคนก็เริ่มค่อยๆหายไปเรื่อยๆ

จากที่เห็นบ้านคนติดกัน3-4 หลัง

ก็เริ่มเห็นแค่1 เดียวบ้างไม่เห็นบ้าง

 

ก็เริ่มคิดในใจละว่า เอาแล้ว

หรือว่าที่พี่พนักงานเซเว่น

เค้าพูดมันจะจริงว้ะ!!!!

 

ขี่ไปได้ซักพักก็เหมือนว่า

ทางมันจะเริ่มชันขึ้นไปเรื่อยๆ

สัญญาญก็ไม่ดีขาดๆหายๆบ้าง

ผมก็เลยกัดฟันสู้ต่อเอาว้ะ!!! อย่าไปกลัว !!

 

เวลา1ทุ่ม ผมก็ได้ยินเสียงของหล่นจากท้ายรถ

ผมเลยจอดดู ใช่ครับถังน้ำมันท้ายรถ

มันตกลงมา “แต่ก็แอบงงนะ

เพราะว่าผมมัดไว้แน่นมาก”

ตอนที่ของตกอารมณ์เหมือน

มีคนดึงกระชากจนรถโยก “

ในใจผมก็เริ่มกลัวละ 

 

ก็เลยดู GPS

โห่เรามาไกลเกินจะกลับไปแล้ว

ต้องเอาว้ะ!!! ลุยต่อ !!

ผมยกมือท่วมหัวไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ขอให้ผมอย่าเจออะไรที่ไม่ดีเลย

ผมมาคนเดียวอย่าแกล้งผมเลย

ผมก็เลยขี่ไปได้ซักพัก

เหมือนภาพมันช้าลง (เหมือนขี่อยู่ในป่าช้า)

 

จากความเร็วที่ขี่มาตอนแรก60-70km/h

แต่ตอนนี้บิดจนหมดปลอกแล้ว

ได้แค่10-15

ผมวังเวง มันเงียบมาก

เงียบจนผมได้ยินเสียงหายใจของผมเอง

ในหมวก กับเสียงเครื่องที่เหมือนพร้อม

จะดับอยู่ตลอดเวลา

ภาพในหัวเริ่มผุดขึ้นมา เห็นในข่าว

ที่เค้าดักจี้ดักปล้นกันตามป่าตามเขากัน

ผมก็นึกอย่าให้เจอแบบนั้นเลย!!

 

ดันไปนึกเรื่องผีอีก (ไม่รู้จะนึกทำไม)

พอมาถึงช่วงที่เลี้ยวโค้งหักศอ

กแสงไฟหน้ารถผมก็สาดไปตรงมุมโค้ง

ทำให้หางตาผมเหลือบไปเห็นอะไรบ้างอย่าง

เป็นเงาดำๆเหมือนคนยืน (น่าจะผู้ชายตัวใหญ่ๆ)

ผมก็เริ่มกลัวละในใจผมนึกตลอดเลย

แม่งเอ๊ยยกูมาทำไมว้ะเนี่ย!!!

 

ทำไมกูต้องเอาตัวเองมาเสี่ยงแบบนี้ว้ะเนี้ย

(อยากจะร้องไห้แล้วตอนนั้น)

ผมมองโทรศัพท์ดูว่าอีกไกลไหม

กว่าจะถึง #ใช่ครับอีก20กว่ากิโล

ผมเริ่มใจเสียแล้ว

ความรู้สึกผมเหมือนมีคนตามมาตลอด

ผมพยายามหันไปมองกระจกหลายครั้งมาก

แต่ก็ไม่เห็นอะไรเลยเพราะมันมืดมาก

ขี่ไปได้อีกประมาณ 3-4กิโล

ผมเห็นเหมือนเป็นคนนั่งก้มหน้าอยู่ข้างทาง

ผมตกใจจนรถเกือบล้ม

มืดขนาดนี้ บนเขาแบบนี้จะมีใครมานั่ง 

 

ผมขี่ไปได้อีกซักพัก ภาพที่ผมเห็นตรงหน้า

คือเหมือนคนวิ่งตัดหน้ารถ!!

#ใช่ครับคนเดิมคนเดียวกับตอนที่ผมเห็นตอนแรกเลย

ตอนนั้นยอมรับเลยครับผมกลัวสุดขีด

จนน้ำตาไหล ได้แต่โทษตัวเองว่า

ทำไมทำแบบนี้!!! ทำไมไม่เชื่อพี่พนักงานเซเว่น

ที่เค้าเตือน

ทนขี่มาซักพักผมก็ถึง

หน่วยพิทักษ์ป่าดอยลาน

ผมเห็นไม้กั้นทางเพื่อเก็บเงินนักท่องเที่ยว

ตอนนั้นผมเริ่มใจชื้นขึ้นมาทันที่ 

แต่ก็ไม่ใช่อย่างที่ผมคิดครับ !!

เพราะมันไม่มีคนเลย

ไม่มีแม้แต่แสงไฟ

ตอนแรกผมคิดไว้ว่า

ถ้ามีเจ้าหน้าที่ตรงหน่วยพิทักษ์

ผมจะขอเค้ากางเต็นท์นอนไปก่อน

แล้วตอนเช้าผมจะขึ้นไปแม่กำปอง

ผมหันไปดูGPSในโทรศัพท์

ยังเหลืออีก8-9กิโล เอาว้ะ!!!

ผ่านมาขนาดนี้แล้วอีกแค่นี้เอง

มันพูดอะไรไม่ออกแล้ว

เลยขี่ออกมาจากตรงนั้นได้ซักพัก

แต่เหมือนจะเวรซ้ำกรรมกระทืบ!!

น้ำมันรถผมจะหมดไม่มีเหลือซักขีด

ผมคิดในใจอะไรอีกว้ะเนี้ย!!

จะทำไงดีว้ะเนี่ย!!!

ตอนนั้นแทบบ้าเลยคิดอะไรไม่ออก

คือถ้าจะจอดเติมน้ำมัน

ก็ต้องยกของออกจากรถทั้งหมด

เพื่อที่จะเปิดเบาะเติม

แต่อีกใจก็กลัวว่า ถ้าจอดจะมีใครตามมาไหม

แล้วถ้ามีคนมาจี้มาปล้นจะทำยังไง

กว่าจะเอาของลงกว่าจะมัดเชือกอีก

(แล้วมันมืดขนาดนี้ ไฟก็ไม่มีจะไปเห็นอะไร)

ผมเลยตัดสินใจเป็นไงเป็นกัน

ลุยต่อ


หนุ่มไม่สนคำเตือนชาวบ้าน ตัดสินใจขี่จยย."ขึ้นแม่กำปองกลางดึก"

ถ้ามันถึงคราวของผมจริงๆ

ผมก็ทำใจยอมรับมัน !!

น้ำตาไหลไม่หยุด จนขี่มาได้ซักพัก

มันเป็นเนินที่ชันมากแล้วเป็นโค้งแบบยูเทิร์น

ใช่ครับ!!!

รถผมขึ้นแทบจะไม่ไหว

ผมเลยลงจากรถแล้วเข็น

พร้อมกับบิดคันเร่งไปด้วย (น้ำตาไหลไปเข็นรถไป) มันหนักมากๆเลยครับ

ผมเปิดกระจกหมวกกันน๊อค

ตะโกน คำหยาบ ค..ย แม๊งเอ๊ย !!!

ทำไมกูต้องเจออะไรแบบนี้ว้ะ !!

กูมาเที่ยวมาพักผ่อนแท้ๆ

แต่ทำไมต้องเป็นแบบนี้

 

ผม ได้ยินเสียงเหมือนเสียงคนหัวเราะ !!! 

ผมไม่ไหวแล้วเลยตะโกนด่าไป

หัวเราะ ค..ยอะไร!!

ถ้าแน่จริงมึงมาช่วยกูดันรถเลยสิ !!

แล้วเหมือนคำขอผมจะเป็นจริง

ผมได้ยินเสียงเหมือนคนวิ่งลงมาจากป่า

#ประมาณว่าเหมือนเสียงเราวิ่งเหยียบพวกใบไม้อะครับ

ผมตกใจกระโดดขึ้นมอไซค์แล้วบิด

เชื่อไหมครับ

เหมือนมีคนมาดันรถให้ผมจริงๆ 

จากรถที่อืดๆมาทั้งทางความเร็วมันค่อยๆเพิ่มขึ้นจาก10เป็น20เป็น30

ในช่วงนั้นมือผมสั่นไปหมด

ผมคิดอะไรไม่ออกแล้วได้แต่คิดในใจ

ขอบคุณที่ช่วยดัน

 

แต่อย่าพึ่งดีใจไปครับ !!

#ข้างหน้ามันเป็นทางลงแบบชันมากๆมันเป็นเหวลึกก่อนถึงหมู่บ้าน

ของที่ผมขนมามันมีน้ำหนักเยอะมากเกิน + กับความเร็วรถที่ขึ้นมาจากเนิน

เบรครถผมไม่อยู่ครับ

กลิ่นเหม็นไหม้จากจานเบรค

ลอยขึ้นมากเลย ผมกำจนแน่น

ทั้งเบรคหน้าเบรคหลังแต่มันไม่อยู่ !!

 

ในหัวผมนี่หน้าพ่อหน้าแม่ผมลอยขึ้นมาเลย

ใจผมรู้สึกผิดมากๆเพราะผมแอบเค้ามา 

คนที่บ้านไม่มีใครรู้เลยซักคนว่าผมมาเชียงใหม่

(ถ้าผมเป็นอะไรไปใครจะรู้ไหมเนี้ย

กูจะมาจบชีวิตตัวเองที่นี่จริงๆหรอว้ะเนี้ย !! )

 

ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย คุ้มครองด้วยเถิด

และแล้วเหมือนมีคนดึงรถผมให้ช้าลง

ผมมองกระจก และสิ่ง ที่ผมเห็นข้างถนน

แม่ง คือคนเดิมเว้ย !!

(แต่เห็นแค่แปปเดียวแล้วก็หายไป)

ขี่ต่อมาอีกไม่นานผมก็ถึงน้ำตกแม่กำปอง!

!(มันจะเป็นธารน้ำให้รถขี่ผ่าน)

ผมเหลือบไปเห็นคน2คนยืนหันหลัง

แล้วก็หายไป

 

ผมขี่ต่อมาจนถึงร้านค้าในแม่กำปอง

ผมเลยถามป้าครับ

แถวนี้มีที่พักว่างๆไหมครับ

คือผมจะไปกางเต้นท์แต่ผมกลัว

ป้าเค้าบอกไปอีกหน่อยนึงลูก

มันจะมีโฮมสเตย์อยู่น่าจะว่างนะ

ผมบอกขอบคุณแก

นึกในใจเห้ออออออรอดแล้ว รอดแล้วโว้ย !!!

#ช่วงที่ผมกำลังเอาขาตั้งขึ้นป้าเค้าถามหนุ่มๆหนุ่มมาคนเดียวหรอลูก

ผมบอกใช่ครับป้า

มาคนเดียวครับผมมาจากพิษณุโลก

ป้าเค้าบอกว่า อ๋อจ้ะๆ

ตอนแรกป้าเห็นหนุ่ม นึกว่ามีคนซ้อนมาด้วย

ผมนึกในใจของผมขนมาเยอะขนาดนี้

จะซ้อนยังไง แล้วผมก็บอกขอบคุณป้าเค้า

แล้วขี่กลับที่พัก!!

 

ขอบคุณ Wan Racings