ลูกช้างน้อยสู้สุดแรงไม่ยอมให้จนท.เข้าใกล้แม่ช้างที่นอนป่วยจนลุกไม่ขึ้น

01 มีนาคม 2564

บีบหัวใจ ลูกช้างน้อยสู้สุดแรงไม่ยอมให้จนท.เข้าใกล้แม่ช้างที่นอนป่วยจนลุกไม่ขึ้น เพราะคิดว่าจะมาทำร้าย

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2564 เพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยแพร่คลิปพร้อมรายงานเหตุทีมสัตวแพทย์และผู้เกี่ยวข้องเร่งช่วยแม่ช้างบาดเจ็บ โดยมีลูกช้างยืนเฝ้าไม่ห่าง แต่อุปสรรคครั้งนี้คือตัวลูกช้างเองที่ไม่ยอมปล่อยให้ใครเข้าใกล้แม่ของมันเพราะกลัวว่าจะเข้ามาทำร้าย โดยหากมันเห็นว่าใครเข้ามาใกล้มันจะวิ่งพุ่งเข้าใส่ทันทีแล้วรีบกลับไปอยู่ใกล้ๆแม่
 

รายงานระบุ สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร​ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ สสป.สบอ.2 (ศรีราชา)​ รายงานว่า​ ได้รับแจ้งจากหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน ว่าพบช้างป่าตัวเต็มวัย นอนอยู่บริเวณ​ สวนยางในพื้นที่​ ม.9 ต.พวา​ อ.แก่งหางแมว​ จ.จันทบุรี และไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ โดยมีช้างวัยเด็ก สูงประมาณ 150-160 ซม. อายุประมาณ 3 ปี เฝ้าอย่างใกล้ชิดและวิ่งไล่ ทำให้คณะเจ้าหน้าที่ฯ ไม่สามารถ​เข้าใกล้ตัวช้างป่าตัวดังกล่าวได้ หัวหน้าฝ่ายวิชาการและคุ้มครองสัตว์ป่า และทีมสัตวแพทย์ สสป.สบอ.2 (ศรีราชา)​ จึงเข้าพื้นที่เพื่อทำการประเมินอาการ ประเมินสถานการณ์ เพื่อทำการรักษาต่อไป

ทั้งนี้ทีมสัตวแพทย์ สสป.สบอ.2 (ศรีราชา)​ ได้ประสานทางหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน ให้จัดเตรียมรถแมคโครขนาดใหญ่โดยด่วนที่สุด เพื่อทำการตักดินและดันตัวช้างป่าตัวดังกล่าวให้ลุกขึ้นยืน เพราะช้างป่าตัวดังกล่าวยังมีแรงบริเวณขา มีการถีบขา และพยายามลุกอยู่ตลอดเวลา​​ ล่าสุดสามารถแยกลูกช้างออกได้แล้ว​ สำหรับความคืบหน้าของอาการและการรักษาจะแจ้งให้ทราบต่อไป

 

ลูกช้างน้อยสู้สุดแรงไม่ยอมให้จนท.เข้าใกล้แม่ช้างที่นอนป่วยจนลุกไม่ขึ้น

 

ลูกช้างน้อยสู้สุดแรงไม่ยอมให้จนท.เข้าใกล้แม่ช้างที่นอนป่วยจนลุกไม่ขึ้น

ล่าสุดวันที่ 1 มี.ค. 2564 ทางเพจรายงานความคืบหน้าการช่วยเหลือช้างป่าป่วย​ ระบุว่า ด้านเจ้าหน้าที่พร้อมทีมสัตวแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ารักษาและเฝ้าระวังอาการตลอดทั้งคืน สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร​ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ สสป.สบอ.2 (ศรีราชา)​​ เปิดเผยว่า หัวหน้าฝ่ายวิชาการและคุ้มครองสัตว์ป่า ทีมสัตวแพทย์ สัตวบาลสสป.สบอ.2 (ศรีราชา)​ ทีมสัตวแพทย์ สัตวบาล กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน คณะเจ้าหน้าที่ไฟป่าเขาสิบห้าชั้น คณะเจ้าหน้าที่ปกครอง ผู้นำชุมชนในพื้นที่ คณะเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่  อาสาสมัครพิทักษ์ช้างป่า กลุ่มอนุรักษ์ช่วยเหลือสัตว์ป่า ได้เข้าพื้นที่ สวนยาง ม.9 ต.พวา​ อ.แก่งหางแมว​ จ.จันทบุรี เพื่อทำการรักษาช้างป่า เพศเมีย อายุประมาณ 20 ปี ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ อ่อนเพลียมาก และผอมมาก  โดยพบช้างป่าวัยเด็ก (ลูกช้างป่า)​ สูงประมาณ 150-160 ซม. อายุประมาณ 2-3 ปี (หย่านมแล้ว)​ เฝ้าอย่างใกล้ชิด วิ่งไล่ ทำให้คณะเจ้าหน้าที่ฯ ไม่สามารถ​เข้าใกล้ตัวช้างป่าป่วยตัวดังกล่าวได้

 

ลูกช้างน้อยสู้สุดแรงไม่ยอมให้จนท.เข้าใกล้แม่ช้างที่นอนป่วยจนลุกไม่ขึ้น

 

ลูกช้างน้อยสู้สุดแรงไม่ยอมให้จนท.เข้าใกล้แม่ช้างที่นอนป่วยจนลุกไม่ขึ้น

 

ต่อมาทีมสัตวแพทย์ สัตวบาล สสป.สบอ.2(ศรีราชา)​ ทำการวางยาซึมลูกช้างป่า เพื่อแยกออกจากช้างป่าป่วย ซึ่งลูกช้างป่าได้ฟื้นจากยาซึมเป็นที่เรียบร้อย​จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ได้ทำคอกเพื่อให้ฝูงช้างป่ามารับแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากลูกช้างป่าได้พังคอกออก เจ้าหน้าที่ฯ ทำการติดตามลูกช้างป่า พบว่าลูกช้างป่าเดินทางไปยังแปลงปลูกป่าบ่อมะเดื่อ ขสป.เขาอ่างฤๅไน เพื่อรอเข้าฝูงช้างป่าต่อไป

สำหรับการรักษาช้างป่าป่วย แบบพยุงอาการ สัตวแพทย์ได้ให้สารน้ำเข้าหลอดเลือดดำ เข้าใต้ผิวหนัง และทำการให้ยารักษา สารละลายกลูโคส พร้อมทั้งวิตามินบำรุง​ ทำการเจาะเก็บเลือดช้างป่าป่วย และช้างป่าวัยเด็ก เพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ​ และได้ทำการใช้รถแมคโครตักดินไว้พยุงรอบลำตัวและดันตัวช้างป่าเพื่อให้ช้างป่าลุกขึ้นโดยมีรถแมคโครช่วยพยุง แต่ช้างป่ายังไม่มีแรงลุกขึ้น

ทีมสัตวแพทย์ สัตวบาล และคณะเจ้าหน้าที่ทำการเฝ้าดูแลช้างป่าป่วยตัวดังกล่าวตลอดทั้งคืนโดยในวันนี้หากช้างป่าป่วยยังไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ จะทำการพิจารณาใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงตัวช้างแบบเหล็กถอดประกอบ ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลสัตว์เนินพลับหวานพัทยา

 

ลูกช้างน้อยสู้สุดแรงไม่ยอมให้จนท.เข้าใกล้แม่ช้างที่นอนป่วยจนลุกไม่ขึ้น

 

ขอบคุณ ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช