ข้าวโอ๊ต AXIS ร่ำไห้ไล่ไทม์ไลน์ป่วยโควิดละเอียด ยันไม่จงใจปกปิดข้อมูล

จากที่ตามหากันมานานว่า นักร้องบอยแบนด์ติดโควิดที่เชื่อมโยงกับงานวันเกิดของ ดีเจมะตูม เตชินท์ พลอยเพชร นั้นคือใครซึ่งชาวเน็ตพยายามขุดหาและเชื่อมโยงกันอย่างมาก จนในที่สุด ข้าวโอ๊ต คริษฐ์ พรรณธรรม สมาชิกวงบอยแบนด์ AXIS ก็ออกมายอมรับว่าตนเองคือนักร้องหนุ่มคนนั้นหลังจากที่ มดดำ คชาภา โฟนอินถามความจริงกลางรายการ

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 
- ชาวเน็ตตามขุด เร่งตามหา นักร้องบอยแบนด์ติดโควิดในงานวันเกิดดีเจมะตูม
- ชาวเน็ตวิจารณ์สนั่น เพื่อนดีเจมะตูม เตชินท์ ปกปิดข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่

โดย ข้าวโอ๊ต คริษฐ์ พรรณธรรม ที่ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการแฉ ด้วยการโฟนอินแบบวิดีโอคอล ที่มี มดดำ คชาภา ตันเจริญ กับ ดีเจดาด้า วรินดา ดำรงผล และดีเจเชาเชา ชวลิต ศรีมั่นคงธรรม เป็นพิธีกร ซึ่งในระหว่างที่เล่ารายละเอียดให้ฟังนั้น เจ้าตัวก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ พร้อมทั้งบอกว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะปกปิดประวัติจนเรื่องบานปลายนอกจากนี้ ข้าวโอ๊ต คริษฐ์ ได้ไล่เรียงไทม์ไลน์แบบระเอียดยิบให้ฟังว่า ตนอยู่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 21 - 22 มกราคม 2564 แต่เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นโควิด 19 จริงๆ ตนขอสาบานได้เลย ตนไม่ได้โกหก และไม่ได้ปิดบังไทม์ไลน์ ที่จริงตนพยายามถามคุณหมอตลอดว่าเป็นหรือเปล่า กำลังจะหายหรือกำลังจะเป็น อยากให้ข้อมูลมันชัดเจน เพราะเห็นข่าวหลายๆ อย่าง บางทีไทม์ไลน์มันไม่ตรงสักอย่าง

 

 
ซึ่งไทม์ไลน์วันที่ 14 - 20 มกราคม ที่หายไป ตนอยู่แต่บ้าน ส่วนวันที่ 12 - 13 มกราคม ตนคิดว่าแค่แพ้อากาศ เพราะอากาศหนาว มีอาการคัดจมูก หายใจไม่ออก จึงกินยาแก้แพ้ แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีไข้ ตัวร้อน จึงพักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ไม่ได้ออกไปไหน ซึ่งตนอยู่กับแฟน แฟนสั่งข้าวให้กิน แต่แฟนตรวจแล้วไม่เป็น และมีพี่ชายอยู่ด้วยกัน พี่ชายก็ไม่ได้เป็น คือในคอนโดมีอยู่กัน 3 คน

 

 

ส่วนเรื่องยกเค้กในงานวันเกิดดีเจมะตูมนั้น ตนไม่ได้เป็นคนถือเค้กในวันที่ 9 แต่เอาเค้กไปให้ดีเจมะตูมในวันที่ 8 ที่คอนโดส่วนตัว และไม่ได้ไปที่โรงแรม ซึ่งตนคาดว่าจะติดโควิดวันที่ 9 ที่มีเซอร์ไพรส์ปาร์ตี้ น่าจะติดจากเพื่อนชื่อปีโป้ เป็นคนนอกวงการที่ไปงาน ตนไม่ได้นอนที่โรงแรม และไม่ได้เจอดีเจมะตูมหรือคนอื่น ไปถึงดึกคืองานเลิกแล้ว เลยแค่ไปหาปีโป้ที่ห้องพักในโรงแรม

 

 

กระทั่งวันที่ 10 - 11 ตนไม่ได้ไปไหน เพราะไม่มีงาน อยู่แต่ในห้องตลอด ซึ่งปกติไม่ค่อยออกไปไหนอยู่แล้ว จริงๆ วันที่ 12 - 13 ตนป่วย แต่ไม่อยากคิดไปเองว่าเป็นโควิด 19 หรือเปล่า จนเริ่มรับรสไม่ได้ ไม่ได้กลิ่น แต่พอได้กินยา ประมาณวันที่ 14 - 15 อาการก็เริ่มดีขึ้น จนวันที่ดีเจมะตูมแถลง อาการของตนกลับมาเป็นปกติแล้ว ไม่ได้ป่วย พอมาวันที่ 20 เห็นข่าวของดีเจมะตูม เลยคิดว่ามาตรวจอีกดีกว่าเพื่อความชัวร์ ซึ่งระยะที่หายไป ที่คนว่าปกปิด จริงๆ ไม่ได้ปกปิด ก็คือรักษาตัวเอง พยายามกินยาให้มันดีขึ้น เลยคิดว่าไม่ได้เป็น 

 

 

แต่หลังจากที่ดีเจมะตูมออกมาบอก ตนก็กักตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 21 จนถึงวันนี้ อีกทั้งคุณหมอขอดูอาการเพราะเราเป็นกลุ่มเสี่ยง ว่าจะเป็นหรือจะหาย ตนไม่ได้มีเจตนาปกปิด แต่รอให้คุณหมอแจ้งให้มันชัดเจน จะได้ออกมาชี้แจงให้มันถูกทั้งหมด ช่วงวันที่ 14-20 เป็นช่วงที่พยายามดูตัวเองว่าเป็นหรือเปล่า ก็เครียด เลยพยายามรักษาตัวเองให้มันหายก่อนแล้วค่อยออกไปดีกว่า จนมันเริ่มดีขึ้นแล้ว
 

 

ส่วนที่ไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นคนที่สัมผัสใกล้ชิดกับคนป่วยโควิด 19 คือตนเห็นข่าวตลอด ก็จะมีไทม์ไลน์ที่มันจริงบ้างและไม่จริงบ้าง ซึ่งความจริงที่เราแจ้งไปกับที่ออกข่าวมันไม่ตรงกัน แล้วมีคนโทร. มาถามเยอะมาก ก็เลยสรุปว่าจะเชื่อใครได้บ้าง แต่ตนก็บอกไทม์ไลน์ที่เป็นจริงไปทุกอย่าง แต่คนก็ถามว่าทำไมข่าวเป็นแบบนี้

 

 

จนมาถึงวันที่ 20-21 ที่ผลการตรวจโควิดออก ซึ่งตนเข้าโรงพยาบาล หมอบอกว่ายังไม่แน่ใจว่าสรุปแล้วคุณเป็นหรือไม่เป็น กำลังจะหายหรือกำลังจะเป็น ว่าเชื้ออยู่ระดับไหน หมอเลยขอให้มากักตัวก่อน เพราะตนก็เป็นกลุ่มเสี่ยง แต่วันที่ 9 ที่ตนไป ตนไม่รู้ว่ามีการจ้างนายแบบมาไหม เพราะเมื่อตนไปถึง งานก็เลิกแล้ว น่าจะประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ ไม่แน่ใจว่าคนไปงานกี่คน เพราะตนไม่ได้เจอใครเลย ส่วนปีโป้ เพื่อนที่ตนเจอก็ติดโควิด 19
 

ทั้งนี้ ข้าวโอ๊ต  AXIS ยังได้ยืนยันว่าไม่ได้ไปเชียงใหม่ เพราะอาการไม่ไหวจริงๆ แค่ลุกก็ไม่ไหวแล้ว เลยไม่ได้ออกไปไหน ซึ่งอยากจะขอโทษทุก ๆ คนที่เกี่ยวข้อง ทั้งคนในวงการ และดีเจมะตูมด้วย ยืนยันไม่ได้คิดจะปกปิด ไม่ได้มีเจตนาหนีความจริง ตนรู้สึกเครียดมากๆ ระหว่างที่กักตัวมันไม่ได้มีอาการป่วยเลย หมอก็ให้กักตัวดูอาการ
 

อย่างไรก็ตาม นักร้องหนุ่ม ยังได้เล่าอีกว่า ต้องรอดูอาการ แล้วจะทราบผลอีกครั้งในวันที่ 31 มกราคม 2564 ว่าจะหายหรือเพิ่งเป็นกันแน่ ซึ่งระหว่างที่พูดขอโทษออกมานั้น ข้าวโอ๊ตมีอาการเสียงสั่นและน้ำตาไหลเป็นระยะพร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษสังคม จนมดดำ คชาภา กล่าวให้กำลังใจ บอกว่า "ไม่ต้องร้องไห้ หายเร็ว ๆ"