ครม. เห็นชอบลดภาษี ซื้อ-นำเข้า งานศิลปะ - รถโบราณคลาสสิค

13 มีนาคม 2567

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมงานศิลปะและรถยนต์โบราณ (Classic Cars) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งจะช่วยยกระดับทุนทางวัฒนธรรมและส่งเสริมอุตสาหกรรมทัศนศิลป์ของประเทศ

ครม. เห็นชอบลดภาษี ซื้อ-นำเข้า งานศิลปะ - รถโบราณคลาสสิค 

ครม. เห็นชอบลดภาษี ซื้อ-นำเข้า งานศิลปะ - รถโบราณคลาสสิค

ครม.เห็นชอบมาตรการส่งเสริมงานศิลปะและรถยนต์โบราณ พร้อมหนุนซอฟต์พาวเวอร์ นำเข้างานศิลปะ โดยผู้ซื้องานศิลปะได้ลดหย่อนภาษีไม่เกิน 1 แสนบาทจากการซื้องานศิลปะในประเทศ ภาษีนำเข้างานศิลปะเก็บไม่เกิน 50% พร้อมหนุนนำเข้ารถโบราณเปิดทางจัดนิทรรศการ งานประกวดรถโบราณได้ หวังหนุนท่องเที่ยวประเทศไทย 

ครม. เห็นชอบลดภาษี ซื้อ-นำเข้า งานศิลปะ - รถโบราณคลาสสิค
 

ทางด้าน น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี  (ครม.) วันนี้ (12 มี.ค.) เห็นชอบในหลักการการดำเนินการมาตรการส่งเสริมงานศิลปะ และรถยนต์โบราณ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอซึ่งมาตรการประกอบไปด้วย มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการซื้องานศิลปะ มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะ มาตรการลดหรือยกเว้นอากรขาเข้างานศิลปะ และมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมรถยนต์โบราณ โดยมีมาตรการดังนี้

ครม. เห็นชอบลดภาษี ซื้อ-นำเข้า งานศิลปะ - รถโบราณคลาสสิค

1.มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการซื้องานศิลปะ เพื่อส่งเสริมตลาดการซื้อขายศิลปะ ซึ่งจะทำให้ศิลปินในประเทศไทยผลิตงานศิลปะเพิ่มมากขึ้น และส่งเสริมการจัดแสดงงานศิลปะในประเทศไทย อันจะทำให้การท่องเที่ยวขยายตัวมากขึ้น จึงเสนอให้ผู้มีเงินได้แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถหักลดหย่อนค่าซื้องานศิลปะด้านจิตรกรรมหรือประติมากรรมในราชอาณาจักร ในลักษณะการยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้องานศิลปะดังกล่าวมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาทในปีภาษี

สำหรับการซื้องานศิลปะตั้งแต่วันที่ครม.มีมติถึงวันที่ 31 ธ.ค. 69 โดยคาดว่ารัฐจะสูญเสียรายได้ปีละ 20 ล้านบาท โดยคำนวณจากผู้ใช้สิทธิปีละ 1,000 ราย ซึ่งมีอัตราการเสียภาษีที่แท้จริง 20%

2.มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้แก่ศิลปินในการสร้างงานศิลปะ และส่งเสริมงานศิลปะของศิลปินไทย จึงเห็นควรบรรเทาภาระภาษีให้แก่ศิลปินในประเทศไทย โดยเสนอให้ผู้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (6) แห่งประมวลรัษฎากรที่เป็นเงินได้จากวิชาชีพอิสระประณีตศิลปกรรม สามารถหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้เพิ่มขึ้นจาก 30% เป็นร้อยละ 60% เป็นการถาวร โดยไม่กำหนดประเภทศิลปิน คาดว่ารัฐจะสูญเสียรายได้ปีละ 20 ล้านบาท โดยคำนวณจากผู้มีเงินได้จากวิชาชีพอิสระประณีตศิลปกรรม ในปี 65 ที่มีจำนวน 1,416 ราย

3.มาตรการลดหรือยกเว้นอากรขาเข้างานศิลปะ เพื่อบรรเทาภาระต้นทุนในการผลิตงานศิลปะ และลดต้นทุนในการนำเข้างานศิลปะเพื่อนำมาจัดแสดงงานศิลปะระดับประเทศและระดับนานาชาติในประเทศไทย โดยให้มีการลดหรือยกเว้นอัตราอากรสำหรับงานศิลปะ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะ โดยให้มีการออกประกาศกระทรวงการคลังลดอัตราอากรสำหรับของใด ๆ จากทีกำหนดไว้ในพิกัดอัตราศุลกากร หรือยกเว้นอากรสำหรับของใด ๆ หรือเรียกเก็บอากรพิเศษเพิ่มขึ้นสำหรับของใด ๆ ไม่เกิน 50% ของอัตราอากรที่กำหนดไว้ในพิกัดอัตราศุลกากรสำหรับของนั้น และกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขให้มีหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านศิลปะเป็นผู้รับรองการนำเข้า และควรกำหนดระยะเวลาในการ

มีผลใช้บังคับเป็นการชั่วคราวจนกว่าการดำเนินการของคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นประธาน) (คณะกรรมการฯ) จะแล้วเสร็จ