ไทยวิถี เกษตรยั่งยืน

heading-ไทยวิถี เกษตรยั่งยืน

ทานตะวัน พืชรองมากประโยชน์ เสริมรายได้แก่เกษตรกร

05 ส.ค. 2565 | 16:12 น.
ทานตะวัน พืชรองมากประโยชน์  เสริมรายได้แก่เกษตรกร

ทานตะวัน ไม้ดอกปลูกง่าย มากประโยชน์ สามารถปลูกเสริมรายได้แก่เกษตรกรเป็นอย่างดี รวมทั้งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่าง

การปลูกทานตะวันส่วนใหญ่จะปลูกเป็นพืชรองหรือพืชเสริมรายได้แก่เกษตรกร โดยผลผลิตจะนำไปใช้ในอุตสาหกรรมผลิตน้ำมันพืช แต่ช่วงที่ดอกทานตะวันบานไปทั่วทั้งทุ่ง กลับกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

”ทานตะวัน” เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพันธุ์ไม้ที่ได้รับความนิยมเป็นระยะเวลานานมาก ซึ่งการปลูกทานตะวันส่วนใหญ่จะปลูกเป็นพืชรองหรือพืชเสริมรายได้แก่เกษตรกร โดยผลผลิตจะนำไปใช้ในอุตสาหกรรมผลิตน้ำมันพืช แต่ช่วงที่ดอกทานตะวันบานไปทั่วทั้งทุ่ง กลับกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

ทานตะวัน พืชรองมากประโยชน์  เสริมรายได้แก่เกษตรกร

ทานตะวัน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

1.ประเภทให้น้ำมันจะมีเมล็ดสีดำ มีปริมาณน้ำมันสูงกากเป็นอาหารสัตว์ และยังสามารถใช้เป็นอาหารนกได้อีกด้วย

2.ประเภทใช้เป็นอาหารว่าง หรือทำขนมหวาน เมล็ดมีสีลายขาวดำโตกว่า พวกแรกเปลือกหนาไม่ติดกับเนื้อในเมล็ด เพื่อสะดวกในการกะเทาะแล้วใช้เนื้อ ในรับประทานเป็นอาหารว่าง เช่น เดียวกับเมล็ดของแตงโม

พันธุ์ของทานตะวัน

1.สายพันธุ์ผสมเปิด ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ปลูกกันมานานแล้ว ซึ่งในดอกจะมี จำนวนเรณูที่ติดอยู่กับก้านชูเกสรตัวเมียน้อย ทำให้เกิดการติดเมล็ดด้วยการผสมตัว เองต่ำ ต้องอาศัยแมลงช่วยในการผสมเกสร

2.สายพันธุ์ลูกผสม ปัจจุบันมีพันธุ์ลูกผสมที่สามารถติดเมล็ดได้ดีโดยไม่ ต้องอาศัยแมลงช่วยผสมเกสรเพราะในดอกมีละอองเรณูที่ก้านชูเกสรตัวเมียมาก กว่าพันธุ์ผสมเปิด 3-4 เท่าจึงทำให้การติดเมล็ดด้วยการผสมตัวเองดีกว่าพันธุ์ผสม เปิด นอกจากนี้ลูกพันธุ์ผสมมีลักษณะของจานดอกค่อนข้างใหญ่กลีบดอกสีเหลือง สดใส ให้ปริมาณน้ำมันสูง

3.สายพันธุ์สังเคราะห์ทานตะวันสายพันธุ์สังเคราะห์กำลังดำเนินการวิจัย โดยกรมวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

 

ระยะการเจริญเติบโตของทานตะวัน

1.ระยะสร้างใบ นับจากเริ่มงอกจนถึงใบจริง4คู่ระยะนี้ต้องการสภาพแวดล้อม ที่เหมาะสมเพื่อให้มีการสังเคราะห์แสงได้เต็มที่

2.ระยะเริ่มออกดอกเริ่มจากใบจริงครบ 8คู่ระยะนี้หานทานตะวันได้รับ อุณหภูมิและความชื้นเหมาะสมจะทำให้มีเมล็ดต่อจานดอกมากที่สุด

3.ระยะสร้างตาดอกเริ่มจากใบ 9คู่จนกระทั่งติดดอกถ้าสิงแวดล้อมไม่ เหมาะสมก็จะเกิดเมล็ดลีบบริเวณกลางดอก

4.ระยะดอกบาน ระยะนี้ต้องการความชื้นและแร่ธาตุอาหารมากที่สุด เป็น ระยะที่มีการเจริญเติบของลำต้นอย่างเต็มที่

5.ระยะสร้างเมล็ดถึงระยะสิ้นสุดการเจริญเติบโต เริ่มจากมีการถ่ายละอองเ กสรสิ้นสุดเมื่อเมล็ดเจริญเติบโตเต็มที่มีการสร้างน้ำมันอย่างช้าๆ ระยะนี้พวกพันธุ์ เบาจะกินเวลา 14 วัน และ 16 วัน สำหรับพันธุ์หนักหากได้รับสภาพแวดล้อมที่ เหมาะสมก็จะได้เมล็ดที่สมบูรณ์ที่มีขนาดใหญ่และอัตราการสังเคราะห์น้ำมัน ค่อยๆ ลดลงจนถึงทานตะวันแก่เต็มที่

6.ระยะเก็บเกี่ยวจากระยะสร้างเมล็ดถึงระยะเก็บเกี่ยว หลังจากการสร้าง น้ำมันแล้วก็จะมีการเพิ่มขนาดและน้ำมันของเมล็ด อัตราการสร้างของน้ำมันค่อยๆ ลดลงจนถึงทานตะวันแก่เต็มที่พร้อมเก็บเกี่ยว

วิธีการปลูกดอกทานตะวัน

การเตรียมแปลง

  1. ไถตากดินลึกประมาณ 30 เซนติเมตร ตากดินไว้ประมาณ 7-10 วัน
  2. หว่านปูนขาวหรือปูนโดโลไมท์ให้ทั่วแปลงเพื่อปรับสภาพดิน อัตรา 500-1,000 กก./ไร่
  3. ใส่ปุ๋ยคอก/ปุ๋ยหมัก อัตรา 1,000-1,500 กก./ไร่
  4. ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 รองพื้นอัตรา 25 กก./ไร่

ทานตะวัน พืชรองมากประโยชน์  เสริมรายได้แก่เกษตรกร

การเพาะเมล็ด

  1. เตรียมวัสดุเพาะกล้าใส่ถาดหลุม หยอดเมล็ดลงหลุมโดยหยอด หลุมละ 1 เมล็ด (ควรใช้พีทมอสสำหรับเพาะกล้าโดยเฉพาะ)

การย้ายกล้าปลูก

  1. เมื่อต้นกล้ามีอายุ 10-12 วัน หรือต้นกล้าเมื่อมีใบจริง 2 คู่ สามารถย้ายปลูกลงแปลงปลูกได้ โดยใช้ระยะปลูกหว่างแถว 70 เซนติเมตร ระหว่างต้น 40 เซนติเมตร
  • ก่อนย้ายปลูกควรงดการรดน้ำต้นกล้า เพื่อให้ดินปลูกเกาะรากต้นกล้าได้ดีขึ้น และตุ้มไม่แตกเมื่อย้ายลงแปลงปลูก โดยก่อนย้ายปลูกเราควรให้น้ำในแปลงปลูกให้ชุ่ม หรือไม่แฉะจนเกินไป

การให้ปุ๋ย

  1. ปุ๋ยสูตร 25-7-7 เริ่มให้หลังย้ายกล้า 7 วัน อัตรา15กรัม/น้ำ20ลิตร ทุกๆ5-7วัน 2-3ครั้ง
  2. ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ในระยะก่อนออกดอก อัตรา 60 กรัม/น้ำ20ลิตร ทุกๆ5-7วัน จนกระทั้งดอกบานและต่อเนื่องตลอดอายุการออกดอก

การเก็บเกี่ยว

ประมาณ 95 – 110 วัน กลีบประดับรอบดอกจะเริ่มเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีน้ำตาลให้เก็บเกี่ยวโดยการตัดทั้งดอกนำมาตากแดด ให้แห้ง 1 – 2 แดดก่อน แล้วกระเทาะเมล็ดโดยการนวดด้วยเครื่องนวดถั่วเหลืองหรือถั่วลิสง หรือใช้เครื่องสีข้าวฟ่างก็ได้แล้วแต่ความสะดวก (กรณีไม่มีอุปกรณ์และไม่ต้องการลงทุนเอง ก็สามารถจ้างเขาทำได้) ทำความสะอาดเมล็ดให้ดี เก็บไว้ในยุ้งฉางที่ป้องกันแดด กันฝนและแมลงศัตรูได้ ความชื้นที่จะเก็บเมล็ดไว้ควรมีไม่เกิน 10 %

ทานตะวัน พืชรองมากประโยชน์  เสริมรายได้แก่เกษตรกร

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

ไม่มีกั๊ก "ฮาย อาภาพร" เปิดเลขมงคล แบ่งโชคแฟนๆ หลวงพ่อเขียนให้เอง

ไม่มีกั๊ก "ฮาย อาภาพร" เปิดเลขมงคล แบ่งโชคแฟนๆ หลวงพ่อเขียนให้เอง

เช็กเงินสงเคราะห์บุตรอัตราใหม่ ของผู้ประกันตน ม.33 และ 39

เช็กเงินสงเคราะห์บุตรอัตราใหม่ ของผู้ประกันตน ม.33 และ 39

นักข่าวสาวเสียชีวิต ศพเพิ่งถูกส่งให้ครอบครัว เปิดดูถึงตกใจสภาพ

นักข่าวสาวเสียชีวิต ศพเพิ่งถูกส่งให้ครอบครัว เปิดดูถึงตกใจสภาพ

เจ้าของร้านหมูกระทะ ชี้แจงแล้ว หลังเจอดราม่าปรับเศษหมู ที่ลูกค้ากินเหลือ

เจ้าของร้านหมูกระทะ ชี้แจงแล้ว หลังเจอดราม่าปรับเศษหมู ที่ลูกค้ากินเหลือ

พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 15 ราย เศร้ามีเด็กรวมอยู่ด้วย

พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 15 ราย เศร้ามีเด็กรวมอยู่ด้วย