รู้ก่อนกิน "รากบัว" มีดีกว่าที่คิด แต่ถ้าพลาด อาจเจอโทษ

“รากบัว มีดีกว่าที่คิด” คุณอาจคุ้นเคยกับดอกบัวที่สวยงามบริสุทธิ์ แต่รู้หรือไม่ว่า "รากบัว" หรือเหง้าบัว ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งของพืชน้ำมหัศจรรย์ชนิดนี้ที่สามารถนำมารับประทานได้ และเป็นที่นิยมอย่างมากในอาหารเอเชีย เพราะให้เนื้อสัมผัสที่กรุบกรอบอ่อนๆ ทั้งในเมนูผัดและซุป

รู้ก่อนกิน "รากบัว" มีดีกว่าที่คิด แต่ถ้าพลาด อาจเจอโทษ

แต่ก่อนที่จะนำรากบัวมาปรุงอาหาร ลองมาทำความรู้จักกับประโยชน์และข้อควรระวังกันให้ดี เพื่อให้ได้คุณค่าทางอาหารสูงสุดและหลีกเลี่ยงโทษที่อาจเกิดขึ้นได้

 

รากบัว...มีดีอะไรบ้าง? ประโยชน์แน่นๆ ที่คุณควรรู้

รากบัวไม่ได้มีดีแค่รสชาติและเนื้อสัมผัส แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย

• ใยอาหารสูง: ช่วยในระบบขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก และช่วยให้อิ่มนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
• วิตามินซี: เป็นสารต้านอนุมูลอิสระสำคัญ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย บำรุงผิวพรรณให้สดใส
• แร่ธาตุจำเป็น: อุดมไปด้วยโพแทสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก และทองแดง ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของร่างกายในหลายระบบ เช่น การสร้างเม็ดเลือดแดง และการควบคุมความดันโลหิต
• สารต้านอนุมูลอิสระ: มีสารฟลาโวนอยด์และโพลีฟีนอล ซึ่งช่วยลดการอักเสบในร่างกายและปกป้องเซลล์จากความเสียหาย
• ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: ใยอาหารในรากบัวช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล ทำให้ระดับน้ำตาลไม่พุ่งสูงเร็ว เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
• บำรุงสุขภาพหัวใจ: โพแทสเซียมช่วยรักษาสมดุลของของเหลวในร่างกายและควบคุมความดันโลหิต ซึ่งดีต่อสุขภาพหัวใจ

 

รู้ไว้...รากบัวก็มีโทษ ข้อควรระวังที่คุณไม่ควรมองข้าม

แม้รากบัวจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการที่ควรทราบ

• อาจมีพยาธิ: รากบัวเป็นพืชที่เจริญเติบโตในน้ำ หากไม่ล้างทำความสะอาดให้ดี หรือนำมารับประทานดิบ อาจมีความเสี่ยงในการได้รับพยาธิใบไม้ในปอดได้
• ย่อยยากสำหรับบางคน: เนื่องจากมีใยอาหารสูง ผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหาร หรือมีอาการท้องอืดง่าย ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ
• อาจมีสารปนเปื้อน: หากรากบัวมาจากแหล่งน้ำที่ไม่สะอาด หรือมีการใช้สารเคมีในการเพาะปลูก อาจมีสารพิษตกค้างได้

 

กินอย่างไรให้ได้คุณค่าสูงสุด ปลอดภัยไร้กังวล?

เพื่อประโยชน์สูงสุดและความปลอดภัยในการบริโภครากบัว ควรปฏิบัติดังนี้

• เลือกซื้อรากบัวสดใหม่: เลือกรากบัวที่ดูสมบูรณ์ ไม่มีรอยช้ำ ไม่มีกลิ่นเหม็นอับ
• ล้างทำความสะอาดให้ดี: ควรล้างรากบัวให้สะอาดหมดจดหลายๆ ครั้ง และปอกเปลือกออกให้เกลี้ยง
• ปรุงสุกก่อนรับประทาน: ห้ามรับประทานรากบัวดิบเด็ดขาด! ควรนำไปต้ม ผัด หรือทำเป็นซุปให้สุกก่อน เพื่อกำจัดพยาธิหรือเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนมา
• รับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ: แม้มีใยอาหารสูง แต่การรับประทานมากเกินไปอาจทำให้ท้องอืดได้ในบางราย
• รากบัวเป็นวัตถุดิบที่น่าสนใจและมีคุณค่าทางอาหารสูง หากรู้วิธีเลือก วิธีเตรียม และวิธีปรุงอย่างถูกต้อง ก็สามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อสุขภาพได้อย่างอร่อยและปลอดภัย