พระแม่กาลี เทพีแห่งการทำลายอุปสรรค ขจัดศัตรู เป็น เทพอินเดีย หรือ เทพฮินดู ที่คนไทยรู้จักและเคารพนับถือเหมือนเช่น พระแม่อุมาเทวี ไปดู ตำนานพระแม่กาลี กันค่ะว่ามีเรื่องราวน่าสนใจอย่างไรบ้าง และ พระแม่กาลีช่วยเรื่องอะไร
ตำนานพระแม่กาลี
พระแม่กาลี คือร่างที่แบ่งภาคมาจาก พระอุมาเทวี (พระแม่อุมา) โดยทรงมีจุดประสงค์เพื่อลงมาปราบอสูรที่มีนามว่า อสูรทารุณ
กล่าวกันว่า อสูรทารุณ เป็นอสูรที่ฆ่าไม่ตาย และหากเมื่อใดที่เลือดหยดลงถึงพื้น เลือดนั้นก็จะทวีขึ้นเรื่อยไปไม่หมดสิ้น ด้วยความคิดที่ว่าตนเองมีอิทธิฤทธิ์มากมายเหนือใคร และไม่มีใครสามารถฆ่าได้ จึงทำให้อสูรทารุณเกิดฮึกเหิมลำพองในความเก่งกาจของตน และได้นำอิทธิฤทธิ์ความเก่งกาจมาใช้กลั่นแกล้งผู้คน และเทวดาทั่วไป จนในวันหนึ่งก็เกิดความคิดที่จะครอบครองโลกทั้งสาม
เมื่อเหล่าเทวดา นางฟ้า และผู้ทรงศีลทั้งมวล ทราบเรื่อง ก็นำเรื่องไปกราบทูลเข้าเฝ้าพระอิศวร เพื่อให้ช่วยหาทางปราบอสูรตนนี้ แต่เมื่อได้ฟังความอันตรายของอสูร ก็ไม่มีเหล่าเทวดาองค์ใดกล้าอาสาออกไปสู้รบเลย
ในที่สุด เทพสตรีแห่งสวรรค์ หรือ องค์พระศรีมหาอุมาเทวี ก็ตั้งใจจะอาสาออกไปปราบศัตรูร้าย
พระองค์ได้ขอพรต่อพระศิวะผู้เป็นเจ้า เพื่อให้ได้รับชัยชนะในครั้งนี้ ก่อนจะเสด็จไปบำเพ็ญตบะเพื่อทำพิธีศักดิ์สิทธิ์ ให้มีฤทธิ์มากจนมีอำนาจปราบศัตรูร้ายได้
พระองค์ได้เข้าไปทำพิธี ณ อุทยานในแนวเขตแดนป่าหิมพานต์ โดย พระศรีมหาอุมาเทวี ได้ให้องค์ขันทกุมารผู้เป็นโอรส ช่วยทำหน้าที่ดูแลปกป้องตน และห้ามไม่ให้ใครย่างกรายเข้าไปในพิธีได้เป็นอันขาด หลังจากเสร็จพิธีแล้ว พระแม่กาลี จึงรีบเสด็จออกไปตามล่าหาอสูรทารุณ ซึ่งเพียงไม่นาน ทั้งคู่ก็ได้พบเจอกัน
พระแม่กาลี ได้ต่อสู้เผชิญหน้ากับอสูรทารุณอย่างยาวนาน เนื่องจากทั้งคู่มีฤทธิ์อำนาจสูงด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ในจังหวะหนึ่งที่พระแม่กาลีทรงใช้ดาบฟันคออสูรจนขาด เลือดของอสูรจึงหยดลงบนพื้น ทำให้อสูรจำนวนมากทวีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และผุดขึ้นมาจากหยดเลือดเหล่านั้น เมื่อพระแม่กาลีเห็นดังนั้น ก็คิดว่าคงไม่มีวันฆ่าอสูรตนนี้ให้ตายได้เป็นแน่
ด้วยเหตุนี้เอง พระแม่กาลี จึงคิดกลอุบายขึ้นมาเพื่อหวังจะเอาชัยชนะในครั้งนี้ พระองค์ตั้งใจที่จะตัดหัวของอสูรพร้อมทั้งดูดกินเลือดทั้งหมดของอสูรก่อนที่เลือดจะตกลงถึงพื้น และเมื่อกินจนหมดสิ้นแล้ว รูปกายของพระแม่กาลี จึงอ้วนใหญ่มากขึ้น ในมือของพระแม่กาลีนั้นถือหัวของอสูรที่ตัดร้อยเอาไว้เป็นพวง อสูรทารุณจึงสิ้นฤทธิ์ลงในที่สุด
ด้วยความดีพระทัยที่ทรงได้รับชัยชนะ พระแม่กาลี จึงทรงเต้นระบำอย่างสำราญหทัย จนลืมไปว่าพระองค์มีร่างกายที่ใหญ่โต พระแม่กาลีทรงยกพระบาทขึ้นโดยหวังจะกระทืบเท้าลงพื้นโลกอย่างเต็มที่ ในเวลานั้นเอง เหล่าเทวดาทั้งหลายก็เกรงว่าพื้นโลกจะแตกสลายหากพระแม่กาลีกระทืบพระบาทลงบนพื้น จึงรีบพากันไปเข้าเฝ้าพระศิวะอย่างเร่งด่วน
เมื่อพระศิวะได้ฟังคำจากเหล่าเทวดา ก็ได้ตะหนักในความจริงว่า ที่พระแม่กาลีทรงมีรูปกายใหญ่โตน่ารังเกลียดเช่นนี้ก็เพราะปราบยักษ์มา พระแม่กาลีน่าจะจดจำพระองค์ได้บ้าง พระศิวะจึงรีบเสด็จไปนอนขวางพื้นโลกไว้อย่างรวดเร็วก่อนที่พระแม่กาลีจะกระทืบเท้าลง เมื่อพระแม่กาลีก้มลงเห็นพระศิวะนอนขวางอยู่ ก็ชะงักด้วยความเกรงอกเกรงใจพระสวามี นางจึงหยุดการกระทำดังกล่าวลง เหล่าเทวดาทั้งหลายต่างพากันโล่งอกโล่งใจเมื่อเหตุการณ์ผ่านพ้นไป จากนั้น พระแม่กาลีก็กลับร่างคืนสู่ปกติ เหตุการณ์ทั้งหมดจึงก็กลับมาสงบดังเดิม
สถานที่ไหว้พระแม่กาลี
พระแม่กาลีช่วยเรื่องอะไร
พระแม่กาลี ช่วยเรื่อง การขจัดอุปสรรคและขจัดศัตรู อีกทั้งพระแม่กาลีเป็นปางหนึ่งของพระแม่อุมาเทวีก็คือช่วยเรื่องความรักด้วยค่ะ
วิธีไหว้พระแม่กาลี
ในการ ไหว้เทพฮินดู หรือ ไหว้พระแม่กาลี การ ไหว้เทพบูชา ปกติให้ใช้ธูปจำนวน 9 ดอก แต่หากต้องการบนบานศาลกล่าวนั้นต้องใช้ธูป จำนวน 39 ดอก หากต้องการแค่ไหว้บวงสรวงถวายอาหารใช้ธูปจำนวน 16 ดอกนะค่ะ สุดท้ายการขอพร อย่าลืมเอ่ยชื่อนามสกุลตัวเองให้ชัดเจน อยู่ที่ไหนเกิดวันที่เท่าไหร่ และบอกสิ่งที่ต้องการแบบหนักแน่น มั่นใจ และที่สำคัญสิ่งที่ขอต้องสามารถจับต้องได้ไม่ไกลเกินจริงนะค่ะ
บทความนี้เป็น ความเชื่อ ส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ขอบคุณ : พระแม่กาลี