เงาะ เป็นไม้ผลเมืองร้อนโดยทั่วไปเงาะเป็นไม้ผลที่เจริญเติบโตได้ดี ในบริเวณที่มีความชื้นค่อนข้างสูง เงาะในประเทศไทย จึงนิยมปลูกในบริเวณภาค ตะวันออกและภาคใต้ อาทิ เงาะพันธุ์สีทอง เงาะพันธุ์น้ำตาลกรวด เงาะพันธุ์สีชมพู เงาะพันธุ์โรงเรียน และเงาะพันธุ์เจ๊ะมง เป็นต้น แต่พันธุ์เงาะที่นิยมปลูกเป็นการค้า มีแค่ 3 พันธุ์ คือ พันธุ์โรงเรียน พันธุ์สีทอง และพันธุ์สีชมพูค่ะ
ขั้นตอนการปลูกเงาะ
1. พันธุ์เงาะ
คำแนะนำกรมวิชาการเกษตร
เลือกใช้พันธุ์ที่มีคุณภาพ และตรงตามความต้องการของตลาด หรือ พันธุ์การค้า เช่น พันธุ์โรงเรียน
วิธีปฏิบัติโดยทั่วไป
นิยมปลูกพันธุ์โรงเรียน
การลดต้นทุน
2. พื้นที่ปลูกเงาะ
คำแนะนำกรมวิชาการเกษตร
วิธีปฏิบัติโดยทั่วไป
ปลูกตามพื่นที่ที่มีอยู่โดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสม ไม่พิจารณาถึงต้นทุนหรือปัจจัยที่เพิ่มขึ้น
การลดต้นทุน
ใช้พื้นที่ที่ให้เหมาะสมกับความต้องการของพืชและศักยภาพการผลิตที่เหมาะสม ลดต้นทุนประมาณ 40 %
3. การเตรียมพื้นที่ปลูกเงาะ
คำแนะนำกรมวิชาการเกษตร
ควรเตรียมพื้นที่ปลูกในฤดูแล้ง เพราะสามารถปลูกได้ทันทีตั้งแต่ต้นฤดูฝน โดยไถกำจัดวัชพืชตลอดจนตอไม้และไม้ยืนต้นอื่นๆ ออกให้หมด ไถพรวนปรับพื้นที่ให้เรียบ
วิธีปฏิบัติโดยทั่วไป
ปลูกตามพื้นที่ที่มีอยู่
การลดต้นทุน
4. การปลูกเงาะ
คำแนะนำกรมวิชาการเกษตร
วิธีปฏิบัติโดยทั่วไป
นิยมปลูกแบบสีเหลี่ยมจัตุรัส
การลดต้นทุน
5. การใส่ปุ๋ย
คำแนะนำกรมวิชาการเกษตร
วิธีปฏิบัติโดยทั่วไป
การลดต้นทุน
6. การให้น้ำ
คำแนะนำกรมวิชาการเกษตร
ให้น้ำเพียงพอกับความต้องการของเงาะในแต่ละช่วงการเจริญเติบโต ดังนี้
ช่วงระยะใกล้ออกดอก ให้น้ำน้อยจนถึงงดน้ำในบางช่วงเพื่อป้องกันการแตกใบอ่อน เมื่อช่อดอกแทงออกมาระยะหนึ่ง จะให้น้ำประมาณ 1 ใน 3 ของการให้น้ำปกติและเพิ่มปริมาณเรื่อยๆ จนกระทั่งดอกเริ่มบานและติดผล ช่วงการเจริญของผล ให้น้ำในอัตรา 80% ของการให้น้ำปกติเมื่อผลเงาะอายุ 1-5 สัปดาห์หลังดอกบาน และเพิ่มเป็น 85% ของการให้น้ำปกติเมื่อผลอายุ 6 สัปดาห์หลังดอกบานจนกระทั่งเก็บเกี่ยว
วิธีปฏิบัติโดยทั่วไป
การลดต้นทุน
ใช้ระบบการให้น้ำแบบหัวเหวี่ยงเล็กช่วยประหยัดน้ำและลดต้นทุนค่าจ้างแรงงาน
8. การเก็บเกี่ยว และ การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว
วิธีปฏิบัติโดยทั่วไป
การลดต้นทุน
ขอบคุณข้อมูลจาก : สถาบันวิจัยพืชสวนกรมวิชาการเกษตร
สนับสนุนโดย : ปุ๋ยทิพย์