ลางบอกเหตุ ไม่มีเงาหัว ตาม ความเชื่อโบราณ

18 เมษายน 2565

ลางบอกเหตุ ไม่มีเงาหัว ความเชื่อโบราณเชื่อว่าอาจถึงฆาต ไม่มีเงาหัว หรือ เงาหัวขาด คืออะไร มาดูวิธีแก้เคล็ดกันคะ

ลางบอกเหตุ คน ไม่มีเงาหัว ตาม ความเชื่อโบราณ นั้นเชื่อกันว่าอาจถึงฆาต ถ้าไม่มีเงาหัว หรือ เงาหัวขาด นั้นสื่อถึงอะไร และมี วิธีแก้เคล็ด หรือมีวิธีรับมือหรือไม่

วันนี้ Thainews Online ขอพาย้อนกลับไปดู ความเชื่อ ของคนไทยสมัยก่อนที่ว่า หากเห็นใคร ไม่มีหัว มีแต่ไหล่กับตัว นั่นแสดงว่า เขากำลังจะหมดบุญ ถึงอายุขัยแล้ว จริงหรือไม่ มากหรือน้อยเพียงใด 

ลางบอกเหตุ ไม่มีเงาหัว ตาม ความเชื่อโบราณ

บทความนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

ไม่มีหัว เงาหัวขาด เงาหัวไม่มี ลางบอกเหตุคืออะไร

 

ตามความเชื่อของคนโบราณที่บอกต่อๆ กันมาว่า หากเห็นใครไม่มีหัว มีแต่ไหล่กับตัว นั่นแสดงว่า เขากำลังจะหมดบุญ คือ ถึงอายุขัยแล้ว จะต้องเสียชีวิตในอีกไม่ช้า เพราะศีรษะของมนุษย์ เป็นอวัยวะที่สำคัญมาก หากเมื่อใดที่ ไม่มีศีรษะ เหลือเพียงแต่ตัว ก็เท่ากับว่า ชีวิตได้ดับสิ้น ส่วนวิธีแก้ไขต่างๆ ตามที่โบราณได้บอกไว้ มีดังนี้

1. ส่องกระจกไม่เห็นหัวตัวเอง 

ถ้ามองกระจกหรือมองในน้ำแล้วไม่เห็นเงาหัวตัวเองหรือของคนอื่น ให้รีบบอกคนอื่นหยิบหมวก ถังน้ำ ผ้าถุงของแม่ ผ้าขาวม้าของพ่อ มาครอบหัว แล้วให้พูดว่า ต่อหัวให้แล้วนะ แล้วจึงไปทำบุญ ปล่อยสัตว์ที่กำลังจะถูกฆ่า

2. เห็นคนอื่นคอขาด ไม่มีเงาหัว   

หากเราเห็นกับตาตัวเองว่า คนข้างหน้าไม่มีเงาหัว หัวขาด ตามโบราณแล้วเขาว่าอย่าไปทักให้เขารู้ตัว แต่ให้แก้เคล็ดโดยการนำหมวก หวดนึ่งข้าว ผ้าถุง ผ้าขาวม้า ถังน้ำเปล่า เป็นต้น ให้รีบนำมาครอบหัวเสีย และต้องพูดว่า ต่อหัวให้แล้วนะ นี่เป็นวิธีแก้เคล็ดไม่มีเงาหัว ให้อายุยืนยาวออกไป แล้วจากนั้นให้ไปทำบุญปล่อยสัตว์ที่กำลังจะถูกฆ่าเพื่อเป็นการต่ออายุของตัวเขาเอง 

ลางบอกเหตุ ไม่มีเงาหัว ตาม ความเชื่อโบราณ

3. ฝันว่าคนรู้จักไม่มีเงาหัว 

ให้แก้ความฝันลงในโถส้วม พร้อมกับราดน้ำลงไป แล้วพูดว่า ให้ ฝันร้ายกลายเป็นดี จากนั้นก็ให้นำหมวก ผ้าถุง หวดนึ่งข้าว อุปกรณ์ต่างๆ ที่กล่าวไปข้างต้น ไปสวมหัวของคนที่ตนเองฝันถึง แล้วบอกว่า ต่อหัวให้แล้วนะ เมื่อแก้เคล็ดในเบื้องต้นแล้วก็ให้รีบไปปล่อยสัตว์ที่กำลังจะถูกฆ่า  เช่น ปลาหน้าเขียง หรือไถ่ชีวิตโคกระบือในโรงฆ่าสัตว์ ถือเป็นการให้ชีวิตของสัตว์เหล่านี้ ก็เท่ากับเป็นการต่ออายุขัยของตนเอง

4. สวดบท อิติปิโส ให้มากกว่าอายุ 1 จบ

บทอิติปิโส ถือเป็นบทสรรเสริญพระพุทธคุณที่นิยมสวดกันโดยทั่วไป ขณะเดียวกันก็มีความเชื่อถึงอำนาจพระพุทธคุณจะช่วยป้องกันภัยร้ายต่างๆ ได้ ช่วยให้แคล้วคลาดจากสิ่งไม่ดี ต่ออายุขัยได้ โดยต้องสวดให้มากกว่าอายุ 1 จบ เช่น ตอนนี้อายุ 31 ปี ก็ให้สวด 32 จบ เป็นต้น และต้องสวดเป็นประจำทุกๆ วัน   

5. สวดมนต์สะเดาะเคราะห์ต่ออายุขัย

อุณหิสสะวิชะยะคาถา”  เป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ที่นิยมสวดเพื่อสืบชะตาต่ออายุในคนที่กำลังจะหมดอายุขัย ชะตาขาด มีเคราะห์ และยังเป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยป้องกันภัยจากภูตผีปีศาจและสิ่งไม่ดีทั้งปวงได้อีกด้วย  ให้สวดทุกๆ วันก่อนนอน หรือถ้ามีเวลาควรสวด เช้า – เย็น เพื่อเป็นการต่ออายุขัย

6. ถือศีล

ปฏิบัติธรรมที่วัดเป็นเวลาอย่างน้อย  3-7 วัน ถ้าหากใครที่มีเวลาก็ควรไปบวชถือศีลที่วัดเป็นเวลา 7 วัน แต่ถ้าไม่มีเวลา ก็ควรถือศีลทั้ง 5 ข้ออย่าให้ขาด และควรสวดมนต์ ทำสมาธิ อย่างน้อยวันละครั้ง

สำหรับวิธีต่างๆ ที่กล่าวมานี้ อยู่ที่ความเชื่อของแต่ละบุคคล หากแต่การต่อชะตาที่ถึงคาดแล้วนั้น ถ้าบุญกรรมมีมาก ก็พอจะช่วยได้หรือบรรเทาให้เบาบางลงได้ แต่ในบางกรณีก็เกินอำนาจของกรรม ต้องปล่อยวางและเข้าใจในสัจธรรม ว่ามีเกิดแล้ว ย่อมมีดับ เป็นธรรมดา บทความนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 

ลางบอกเหตุ ไม่มีเงาหัว ตาม ความเชื่อโบราณ

ขอบคุณภาพจาก : โซเชียลมีเดีย