ใครชอบกินของดิบ กินของไม่ค่อยสุก ต้องระวัง อันตรายกว่าที่คิด

ใครชอบกินดิบๆ สุกๆ ต้องฟัง อันตรายกว่าที่คุณคิดเยอะ มี 5 โรคอันตรายซ่อนอยู่ในของไม่สุก ที่อาจถึงตายได้ อย่าชะล่าใจ มาดูกันให้รู้ ก่อนจะสายเกินแก้
ใครชอบกินของดิบ กินของไม่ค่อยสุก ต้องระวัง คุณเป็นหนึ่งคนที่ชื่นชอบรสชาติของอาหารดิบ หรือบางครั้งก็เผลอกินอาหารที่ไม่สุกดีใช่ไหม? หากคำตอบคือใช่...เตรียมตัวให้ดี เพราะสิ่งที่คุณอาจมองข้ามไปนั้น อันตรายกว่าที่คิด
นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ออกมาให้ความรู้ด้านสุขภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเน้นย้ำเตือนผู้ที่ชื่นชอบการบริโภคอาหารดิบ หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ ให้ระมัดระวังอันตรายจาก 5 โรคร้ายที่อาจถึงชีวิตได้ โดยมีใจความดังนี้
1. ไข้หูดับ
- เกิดจากอะไร? เชื้อแบคทีเรีย Streptococcus suis ที่อยู่ในหมู โดยเฉพาะหมูที่ดิบหรือสุกๆ ดิบๆ โรคนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวนะ แค่กินหมูกระทะไม่แยกตะเกียบก็ติดเชื้อตัวนี้ได้
- อาการเป็นไง? ไข้สูง ปวดหัว เวียนหัว อาเจียน ถ้าหนักสุดๆ หูหนวกถาวร หรือไม่ก็ไปถึงขั้นช็อกและตายได้เลย ใครที่เป็นสายลาบเลือด ก้อยหมูดิบ ต้องระวังนะครับ
- การป้องกัน: ปรุงหมูให้สุกทั่วถึง ไม่ต่ำกว่า 70 องศาเซลเซียส แค่นี้ก็ลดความเสี่ยงไปได้เยอะแล้วครับ
2. แบคทีเรียกินเนื้อคน
- เกิดจากอะไร? เชื้อแบคทีเรีย Vibrio vulnificus ในอาหารทะเลสด อย่างหอยนางรมดิบ กุ้งดิบ
- อาการเป็นไง? คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ถ้าโชคร้าย เชื้อแพร่เข้ากระแสเลือด ทำให้เนื้อเน่า และตายได้ ใครที่ชอบกินซีฟู้ดดิบๆ สดๆ โดยเฉพาะคนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- การป้องกัน: กินต้องมั่นใจว่าซีฟู้ดสดจริง ผ่านการแช่แข็งอย่างถูกวิธี หรือไม่ก็กินสุกไปเลย ปลอดภัยกว่าเยอะ
3. พยาธิใบไม้ตับ
- หลายคนอาจไม่รู้ว่า พยาธิใบไม้ตับ เป็นภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในปลาน้ำจืด โดยเฉพาะพวกปลาดิบ ปลาร้า ปลาจ่อมที่หลายคนชอบกินกัน แม้แต่ในประเทศไทยเอง จังหวัดขอนแก่นก็ได้ฉายาว่าเป็น “เมืองหลวงมะเร็งท่อน้ำดี” เพราะมีอัตราผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีสูงที่สุด ซึ่งสาเหตุสำคัญก็มาจากการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับนี้แหละ
- แล้วมันน่ากลัวขนาดไหน? ถ้าเราติดพยาธิใบไม้ตับเข้าไป อาการช่วงแรกอาจจะไม่มีอะไรชัดเจน แต่ถ้าเริ่มมากขึ้นก็จะรู้สึก ท้องอืด คลื่นไส้ ปวดท้อง และถ้าปล่อยให้พยาธิอาศัยอยู่ในร่างกายนานๆ มันจะทำให้ท่อน้ำดีอักเสบเรื้อรัง จนกลายเป็น มะเร็งท่อน้ำดี ที่รักษายากมาก
- การป้องกัน: เลือกกินปลาที่ปรุงสุกเรียบร้อย ถ้าต้องกินปลาร้า ปลาส้ม ควรเลือกที่มีแหล่งที่มีมาตรฐานนะ
4. ซาลโมเนลล่า
- เกิดจากอะไร? เชื้อแบคทีเรีย Salmonella ที่ชอบอยู่ในเนื้อไก่ดิบ ไข่ดิบ นมดิบ ซึ่งเชื้อตัวนี้ทำให้ ท้องเสีย ปวดท้อง คลื่นไส้ ไข้สูง ถ้ารุนแรงอาจติดเชื้อในเลือดได้ ใครที่ชอบไข่ไก่ดิบต้องระวัง
- การป้องกัน: ปรุงสุกที่อุณหภูมิ 75 องศาเซลเซียสขึ้นไป ล้างมือให้สะอาดก่อนจับอาหาร ส่วนถ้าจะกินไข่ดิบ เลือกเป็นไข่ที่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์หรือปรุงสุก
5. แอนแทรกซ์
- ใครตามข่าวช่วงนี้ ก็จะได้ยินชื่อโรคนี้บ่อยๆ มันเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Bacillus anthracis ในเนื้อวัวหรือควาย ความน่ากลัวของมันคือ เชื้ออยู่รอดได้นานนับ 10 ปี เชื้อ Bacillus anthracis มีความสามารถพิเศษในการเปลี่ยนตัวเองเป็นสปอร์ ซึ่งทำให้มันทนมาก ไม่ว่าจะเป็นอากาศร้อนหรือเย็น มันก็ยังคงมีชีวิตอยู่ได้ สปอร์ของมันสามารถอยู่รอดได้ในดิน น้ำ และแม้กระทั่งบนพื้นผิวต่างๆ ได้เป็น 10 ปีหรือมากกว่านั้น ทำให้แม้สัตว์ที่ตายจากเชื้อนี้ไปนานแล้ว เชื้อก็ยังคงมีชีวิตอยู่ในดินหรือบนเครื่องมือที่สัมผัสสัตว์นั้น
- การติดต่อ: นอกจากการกินเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อแล้ว เชื้อนี้ยังสามารถติดผ่าน ทางผิวหนัง การสูดหายใจ หรือการสัมผัสกับของเหลวจากสัตว์ที่ติดเชื้อได้เหมือนกัน
- อาการเป็นไง? ไข้สูง ปวดกล้ามเนื้อ อาเจียนเป็นเลือด ท้องเสีย เป็นแผลเนื้อตาย สีดำๆ รวมถึงอาจหนักภาวะช็อก หากเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด จะเกิดภาวะติดเชื้อในเลือด (Sepsis) ที่อาจทำให้เสียชีวิตภายในไม่กี่วัน สายเนื้อวัวดิบ เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากนะ
- การป้องกัน: เลือกกินเนื้อที่ผ่านการตรวจคุณภาพหรือไม่ก็กินสุกไปเลยชัวร์กว่า
อาหารดิบที่หลายคนชอบ
- ไม่ว่าจะเป็นลาบเลือด ก้อยหมูดิบ ปลาร้าดิบ ปลาส้ม ซีฟู้ดสด ไข่ไก่ หรือเนื้อวัวดิบ
- มีความเสี่ยงปนเปื้อนเชื้อโรค พยาธิ
- หรือแบคทีเรีย ซึ่งอาจก่อให้เกิดการเจ็บป่วยรุนแรงและอันตรายถึงชีวิตได้
เลี่ยงได้ก็เลี่ยงนะครับ หรือถ้าจะกิน เอาปลอดภัยสุดคือกินแบบสุกนะครับ