"กุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์" คว้า GI การันตีคุณภาพ ทำเงินปีละ 538 ล้าน

ของดีแดนอีสาน "กุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์" ดังไกล ขึ้นแท่น GI ลำดับ 4 ของจังหวัด เนื้อแน่น–หวาน–ขายดี 538 ล้านต่อปี
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ประกาศขึ้นทะเบียน "กุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์" เป็นสินค้า GI ลำดับ 4 ของจังหวัดกาฬสินธุ์ต่อจาก ผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ ข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธุ์ และพุทรานมบ้านโพน ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ไปก่อนหน้านี้ สร้างรายได้กว่า 538 ล้านบาทต่อปี
"กุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์" เพาะเลี้ยงในบ่อที่มีการวางผังบ่อเลี้ยง เพื่อสะดวกต่อการจัดการบ่อ มีระบบชลประทานโดยใช้น้ำที่มีคุณภาพดี สะอาด มีค่าความกรด - ด่างที่เหมาะสม มีลักษณะดินเป็นดินร่วนปนทราย หรือดินเหนียวปนร่วนปนทราย หรือดินทรายที่สามารถเก็บน้ำได้ มีแหล่งผลิตในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่มีลักษณะภูมิประเทศหลากหลายตั้งแต่ภูเขาถึงที่ราบลุ่ม สามารถแบ่งได้ 5 ลักษณะ คือ (1) พื้นที่ภูเขา (2) พื้นที่หุบเขา (3) พื้นที่ลูกคลื่น (4) พื้นที่ค่อนข้างราบ และ (5) ที่ราบลุ่มริมฝั่งน้ำ
ประกอบกับจังหวัดกาฬสินธุ์ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีสภาพอากาศแบบทุ่งหญ้าสะวันนา โดยมีฤดูฝนและฤดูแล้งสลับกันชัดเจน ซึ่งส่งผลต่อการสร้างเปลือกของกุ้งก้ามกราม ทำให้เปลือกกุ้งมีความหนาไม่มาก ประกอบกับดินที่เป็นดินร่วนปนดินทรายหยาบ ทำให้กุ้งที่เลี้ยงตัวใสสะอาด อีกทั้งน้ำที่ใช้เลี้ยงกุ้งยังมีแร่ธาตุสมบูรณ์ ส่งผลให้เนื้อสัมผัสของกุ้งมีความเหนียว นุ่ม เนื้อแน่นเต็มเปลือก เมื่อปรุงสุกจะมีรสชาติหวาน ไม่มีกลิ่นคาว
ด้วยคุณภาพของกุ้งก้ามกรามจึงนับได้ว่า "กุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์" เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดกาฬสินธุ์ มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมเพื่อประชาสัมพันธ์ผลผลิต กุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้กุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เป็นที่ต้องการของตลาด สร้างรายได้ให้กับชุมชนกว่า 538 ล้านบาทต่อปี
ปัจจุบัน ไทยมีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด ทำให้สินค้าท้องถิ่นได้รับการยกระดับมูลค่าสร้างรายได้สู่ชุมชน และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของไทยอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ขอเชิญชวนทุกท่านติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหว และร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้า GI ได้ที่ Facebook Page : GI Thailand หรือโทรสายด่วน 1368