หงส์ยักษ์ ความเชื่อโบราณ กับ วิธีขอโชคลาภ

12 มกราคม 2566

วิธีขอโชคหงส์ทองยักษ์ เปิดความเชื่อโบราณ หงส์ยักษ์ วัดห้วยลึก พร้อมวิธีขอโชคลาภ และความเป็นมา หงส์ทองยักษ์ อำเภอ ทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

วิธีขอโชคหงส์ทองยักษ์ วันนี้ทีมข่าว Thainews Online จะพาทุกท่านมารู้จัก ความเชื่อโบราณ หงส์ทองยักษ์ ที่ตั้งอยู่อำเภอ ทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีความเป็นมาอย่างไร พร้อมวิธีขอโชคลาภ สายมูห้ามพลาดค่ะ

หงส์ยักษ์ ความเชื่อโบราณ กับ วิธีขอโชคลาภ

หงส์ยักษ์ ความเชื่อโบราณ กับ วิธีขอโชคลาภ

ก่อนอื่นเราอยากให้ทุกคนได้รู้ความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้กันก่อนค่ะว่า จุดกำเนิดของหงส์ยักษ์ วัดห้วยลึก ชาวบ้านอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เล่าสืบต่อกันมาว่า "หงส์ยักษ์" ได้ถูกสั่งสร้างโดย "พระครูไพศาล" เจ้าอาวาสวัดห้วยลึก อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยใช้ทีมช่างจากบ้านหนองหอยเป็นผู้สร้าง โดยการนำเหล็กที่เป็นวัสดุซึ่งเคยใช้จากการสร้างทางรถไฟเก่ามาทำเชื่อมต่อเป็นโครงเหล็กและใช้ปูนโบกปั้นตามแบบที่พระครูต้องการจนกลายมาเป็นรูปร่างหงส์ยักษ์ที่แต่ก่อนมีสีขาว ลักษณะของหงส์ยักษ์นั้นจะหันหน้าออกไปทางถนนเพชรเกษม

ซึ่งขนาดความยาวของปากหงส์ที่แหลมมากจนยื่นออกมากลางถนน ซึ่งความจริงแล้วหงส์ยักษ์วัดห้วยลึก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถูกสร้างขึ้นมาก่อนจะมีถนน ซึ่งตอนนั้นบริเวณวัดยังคงเป็นสวนป่าและมีหมู่บ้านประปราย เมื่อมีการสร้างและขยายถนนทางหลวง จึงทำให้กินพื้นที่หน้าวัดจนบรรจบกับจุดที่สร้างหงส์พอดี ด้วยที่มาไม่แน่ชัดและวัสดุต่างๆ ก็ทำเอาหลายคนเริ่มจะขนลุกกันเสียแล้ว

ตำนาน หงส์ยักษ์ วัดห้วยลึก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ในระยะแรกของการสร้างถนนทางหลวงเพชรเกษมเพื่อเดินทางลงใต้ เจ้าหน้าที่ต่างเคยลงความเห็นกันว่าอยากให้มีการทุบหงส์ยักษ์วัดห้วยลึก แต่เพราะเป็นเสมือนจิตวิญญาณของวัดและชาวบ้านซึ่งอยู่มาก่อนที่จะมีถนนจึงไม่สามารถทำได้และยิ่งมีเรื่องเล่าขานชวนขนลุกของหลายคนบอกต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็ยิ่งทำให้ไม่มีใครกล้าไปแตะต้องหงส์ยักษ์เข้าไปใหญ่

หงส์ยักษ์ ความเชื่อโบราณ กับ วิธีขอโชคลาภ

ตั้งแต่พวกนายช่างที่ต่างก็ฝันเห็นหงส์ยักษ์ตัวนี้จะมาทำร้ายคนที่จะรื้อถอนออก ไหนจะงูยักษ์ที่อยู่บนปากของหงส์ยักษ์ด้วย แต่ที่หลายคนเจอกันมากที่สุดในสมัยก่อนจนเล่าตรงกัน คือ

ในขณะที่กำลังขับรถผ่านหงส์ยักษ์ตอนกลางคืนบนถนนเพชรเกษม ตนกลับเจอหงส์วิ่งออกมาบนถนนตัดหน้ารถจนเกือบเสียหลักและบางคนก็ถูกระฆังบนปากหงส์ขนาดใหญ่ตกลงมาใส่จนเสียชีวิตก็มี ในช่วงนั้นทุกเช้าชาวบ้านที่ผ่านมามักจะตกใจ ที่เห็นปากของหงส์มีคราบสีแดงเหมือนเลือดตลอด

จนกลายมาเป็นเรื่องเล่าขานกันว่าหงส์ยักษ์นั้นอยู่โดดเดี่ยวจึงเหงา บางตำนานก็บอกว่าไม่มีใครทำการไหว้หรือให้อาหาร จึงออกไปจับคนมาเป็นเครื่องบูชาตัวเอง ทางวัดห้วยลึกจึงได้ทำการล่ามโซ่ไว้ที่ขาหงส์ ทาสีใหม่เป็นสีทอง และสร้างหงส์ลูกไว้เคียงคู่กันเพื่อไม่ให้หงส์ยักษ์เหงาจนออกไปเพ่นพ่านสร้างอันตรายแก่ผู้คนอีก

วิธีขอโชคลาภหงส์ยักษ์วัดห้วยลึก

  • อิเจรุนิ จิปิเสขิ อิเจรุนิ จิปิเสขิ อิเจรุนิ จิปิเสขิ ข้าพเจ้า (บอกชื่อตนเอง) ขอกราบบูชาพญาหงส์ ขอให้ข้าพเจ้าห่างไกลจากความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง มีความสุข ความเจริญรุ่งเรือง มีโชคมีลาภผลทุกสิ่ง ประสบความสำเร็จทุกประการด้วยเทอญ 

สำหรับเรื่องราวต่างๆ ที่เล่าขานกันมา เช่น ปากหงส์ทองยักษ์จะมีรอยเลือด จึงต้องนำสีทองมาทาปกปิดรอยเลือดไว้ หรือ ระฆังที่ห้อยอยู่ที่ปากหงส์หล่นลงมาทับพระมรณภาพ  พระอธิการเดชาเผยว่า ไม่ได้มีเรื่องราวเช่นนั้น แต่เป็นเรื่องของความปลอดภัยที่ต้องถอดออกเพราะเกรงว่าระฆังจะไปหล่นใส่รถของผู้ที่ขับผ่าน ส่วนเรื่องที่มีคนเล่าว่า เห็นหงส์ทองบินข้ามฝั่งถนนก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้เห็น แล้วแต่ว่าใครจะมีบุญบารมี พระอธิการเดชายังได้เผยถึงที่มาของหงส์อีกหนึ่งตัวที่ตั้งอยู่ข้างกัน โดยเล่าว่า

ขณะที่จำวัด ได้ยินเสียงที่ระบุว่าเป็นหงส์ทองยักษ์บอกว่าให้ช่วยสร้างหงส์อีกหนึ่งตัวเพราะต้องการคู่ จึงได้มาเป็นหงส์ตัวเมียสีเขียว ตั้งอยู่คู่กับหงส์ทองยักษ์ ในส่วนเรื่องราวความเชื่อที่หงส์ทองมาให้โชค 

พระอธิการเดชา เผยว่าเคยมีคนเป็นหนี้แล้วมาบนกับหงส์ทองให้หมดหนี้หมดสิน เมื่อสามารถปลดหนี้ได้แล้วก็ได้นำกฐินผ้าป่ามามอบให้แก่วัด บางคนมาขอในเรื่องของการสอบ การค้าขาย หรือขอในเรื่องของโชคลาภก็ได้เช่นกัน บทความทั้งหมดนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ

หงส์ยักษ์ ความเชื่อโบราณ กับ วิธีขอโชคลาภ

ขอบคุณข้อมูล/ภาพจาก : วัดห้วยลึก จ.ประจวบคีรีขันธ์