กทท. ลงนามบันทึกข้อตกลง โครงการสินเชื่อสวัสดิการบุคลากร ร่วมกับธนาคารอิสลามฯ

26 เมษายน 2566

การท่าเรือแห่งประเทศไทย จัดพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลง “โครงการสินเชื่อสวัสดิการบุคลากร” ร่วมกับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

    วันที่ 26 เมษายน 2566 นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. และ ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ร่วมลงนาม ในบันทึกข้อตกลงโครงการสินเชื่อสวัสดิการบุคลากรระหว่าง กทท. และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมส่งเสริมและสนับสนุน สวัสดิการและสินเชื่อด้านที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเพื่ออุปโภคบริโภค 

กทท. ลงนามบันทึกข้อตกลง โครงการสินเชื่อสวัสดิการบุคลากร ร่วมกับธนาคารอิสลามฯ

 

เป็นการเปิดโอกาสให้พนักงาน กทท. ได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษทั้งอัตรากำไรและเงื่อนไขในการพิจารณาสินเชื่อให้กับพนักงาน กทท. เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีและเป็นทางเลือกในการใช้บริการทางการเงิน ทำให้จุดมุ่งหมายการมีที่อยู่อาศัยและการบริหารทางการเงินสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ณ ห้องประชุมชั้น 19 อาคารที่ทำการ กทท.

กทท. ลงนามบันทึกข้อตกลง โครงการสินเชื่อสวัสดิการบุคลากร ร่วมกับธนาคารอิสลามฯ

    ผู้อำนวยการ กทท. กล่าวว่า ปัจจุบัน กทท. มีสวัสดิการด้านสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับพนักงาน กทท.  โดยอาศัยความร่วมมือจากพันธมิตรกลุ่มธนาคารชั้นนำหลายแห่ง ที่ผ่านมาอัตราการกู้เพื่อที่อยู่อาศัยที่ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรกลุ่มธนาคาร วันนี้ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยได้เข้ามาเป็นอีกพันธมิตรทางการเงินที่สำคัญในการมอบคุณภาพชีวิตทางการเงินที่ดี

กทท. ลงนามบันทึกข้อตกลง โครงการสินเชื่อสวัสดิการบุคลากร ร่วมกับธนาคารอิสลามฯ

โดยสามารถมั่นใจได้ว่าพนักงาน กทท.จะได้รับการบริการอย่างดีเยี่ยมด้วยอัตรากำไรที่ยุติธรรมซื่อตรงจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กทท. ได้ให้การสนับสนุนด้านเงินฝากกับธนาคารด้วยดีมาโดยตลอด ในครั้งนี้เป็นการต่อยอดความร่วมมือในด้านสินเชื่อเพื่อเป็นสวัสดิการให้บุคลากรการท่าเรือแห่งประเทศไทย

กทท. ลงนามบันทึกข้อตกลง โครงการสินเชื่อสวัสดิการบุคลากร ร่วมกับธนาคารอิสลามฯ

รวมถึงเพื่อให้บุคลากรที่เป็นมุสลิมสามารถใช้บริการทางการเงินที่ถูกต้องตามหลักศาสนา โดยในโครงการดังกล่าวจะมีสินเชื่อที่จะให้บริการครบ ทุกประเภทเกี่ยวกับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อซื้อ ก่อสร้าง ซ่อมแซม ต่อเติม รีไฟแนนซ์บ้าน หรือสินเชื่ออเนกประสงค์เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงาน  เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการดำเนินธุรกิจในอนาคตต่อไป” ดร.ทวีลาภฯ กล่าว