ลูกช้างป่าห้วยขาแข้งกลับคืนโขลงสำเร็จ หลังพบรอยแม่ช้างรับตัว

ลูกช้างป่าห้วยขาแข้งที่พลัดหลงกลับคืนโขลงแล้ว หลังเจ้าหน้าที่ติดตามต่อเนื่องหลายวัน พบแม่ช้างมารับลูกจากคอกพักสำเร็จ
นับเป็นข่าวดีที่หลายฝ่ายเฝ้ารอ เมื่อ ลูกช้างป่าห้วยขาแข้งที่พลัดหลง จากโขลงตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สามารถกลับคืนสู่อ้อมกอดของแม่ได้สำเร็จ หลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยทุ่มกำลังเฝ้าติดตามร่องรอยอย่างไม่ลดละ
นางสาวชยาภร อามระดิษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 เปิดเผยว่า เหตุเกิดขึ้นบริเวณรอยต่อบ้านเขาไม้นวลและบ้านโป่งสามสิบ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี โดยชาวบ้านพบ ลูกช้างป่าเพศเมียอายุราว 4–5 เดือน พลัดหลงอยู่ใกล้พื้นที่เกษตร คาดถูกน้ำป่าพัดพรากจากโขลงระหว่างฝนตกหนัก
เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งเร่งค้นหาโดยใช้โดรนตั้งแต่วันแรก แม้ยังไม่พบตัว แต่ในช่วงวันที่ 6–8 พฤศจิกายน ทีมลาดตระเวนร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน พบว่าลูกช้างมีการเคลื่อนตัวลึกเข้าไปในป่า รวมถึงมีรายงานจากพระวัดป่าหลวงปู่มั่นว่าพบลูกช้างใกล้วัด ก่อนวิ่งหนีด้วยความตกใจ
กระทั่งวันที่ 9 พฤศจิกายน เวลา 16.40 น. เจ้าหน้าที่จึงพบลูกช้างบริเวณท้ายไร่หมู่บ้านที่ 18 และรีบประสานทีมสัตวแพทย์ตรวจสุขภาพ พบว่า ลูกช้างมีน้ำหนักประมาณ 80–100 กิโลกรัม สุขภาพแข็งแรงดี จึงจัดคอกพักชั่วคราว พร้อมป้อนนมทุก 2 ชั่วโมง และใช้โดรนตรวจจับความร้อนเฝ้าดูโขลงช้างในพื้นที่โดยรอบตลอดคืน เพื่อให้แม่ช้างเข้ามารับลูกโดยไม่รบกวนจนเกินไป
เช้าวันที่ 10 พฤศจิกายน เวลา 06.28 น. เจ้าหน้าที่พบว่าลูกช้างปีนออกจากคอกแล้ว การตรวจสอบรอยตีนโดยโดรนความร้อนบ่งชี้ว่า แม่ช้างได้กลับมารับลูกคืนเข้าโขลงเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จึงติดตามร่องรอยต่อเนื่องและสื่อสารกับชาวบ้านให้ช่วยแจ้งเหตุหากพบเห็น
วันที่ 11 พฤศจิกายน ทีมลาดตระเวนตรวจพบ รอยตีนลูกช้างขนาดใกล้เคียงกัน ตามแนวสันมอมะค่า และพบร่องรอยโขลงช้างขนาดใหญ่ในพื้นที่เดียวกัน ยืนยันความเป็นไปได้สูงว่าลูกช้างกลับเข้าสู่โขลงอย่างสมบูรณ์ พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อติดตามพฤติกรรมโขลงช้างตลอด 24 ชั่วโมง
ล่าสุด วันที่ 12 พฤศจิกายน การตรวจสอบภาพจากโดรนและกล้องวงจรปิดไม่พบลูกช้างหรือโขลงย้อนกลับเข้ามาอีก เจ้าหน้าที่ยังคงเดินลาดตระเวนตามแนวรั้วลวดหนาม พร้อมเก็บข้อมูลเพื่อใช้บริหารจัดการพื้นที่และลดความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าในอนาคต
ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 ระบุว่า จากการสำรวจล่าสุด พบว่าพื้นที่ห้วยขาแข้งมีช้างป่าประมาณ 300–400 ตัว และกว่า 100 ตัวออกมาหากินนอกพื้นที่อนุรักษ์ แบ่งเป็น 5 กลุ่มประชากรหลัก โดยการเพิ่มจำนวนของช้างป่าและการขยายพื้นที่หากินสะท้อน ความสมบูรณ์ของป่าตะวันตก ที่ได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง แต่ก็จำเป็นต้องบริหารจัดการเพื่อความสมดุลในการอยู่ร่วมกันระหว่างคนและช้างป่า
สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สามารถขอรับการเยียวยาตามระเบียบงบกลาง พ.ศ. 2568 ผ่านเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ หรือแจ้งเหตุช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ได้ที่ สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362



















