หายากสุดๆ! สัตว์เผือกคืออะไร ต่างจากสัตว์ขาวทั่วไปอย่างไร?

สัตว์เผือก (Albinism) เกิดจากยีนด้อยทำให้ร่างกายไร้เม็ดสี เผยลักษณะเด่น ผิวขาว ดวงตาสีแดง พร้อมไขความต่างจากสัตว์ขาว Leucism
สัตว์เผือก (Albinism) เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ทางพันธุกรรมที่หลายคนสนใจ เพราะเป็นความผิดปกติที่ทำให้สัตว์มีรูปลักษณ์แตกต่างจากเพื่อนร่วมสายพันธุ์อย่างชัดเจน โดยทั่วไป สัตว์เผือกเกิดจากความผิดปกติของยีนที่ควบคุมการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ผิว ขน และดวงตามีสีตามปกติ
กลไกการเกิดสัตว์เผือก (Albinism)
ในทุกสิ่งมีชีวิตมียีนที่ทำหน้าที่ควบคุมการผลิตเม็ดสี แต่เมื่อเกิดความผิดพลาดทางพันธุกรรมขึ้น ยีนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสีเมลานินไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ทำให้ร่างกาย หยุดผลิตเม็ดสีหรือผลิตได้น้อยมาก
- ยีนเผือกเป็นยีนด้อย (Recessive gene) นั่นหมายความว่า ลูกสัตว์จะกลายเป็น "เผือก" ก็ต่อเมื่อได้รับยีนที่บกพร่องจากทั้งพ่อและแม่
- หากได้รับยีนผิดปกติจากเพียงฝ่ายเดียว สัตว์จะยังคงมีสีปกติ แต่จะเป็น "พาหะ" และสามารถถ่ายทอดยีนนี้ไปสู่รุ่นถัดไปได้
ลักษณะเด่นของสัตว์เผือก
สัตว์เผือกสามารถจำแนกได้จากคุณสมบัติภายนอกที่โดดเด่น เช่น
- ผิวหนังและขนสีขาวล้วน เนื่องจากปราศจากเม็ดสี
- ดวงตาสีแดงหรือชมพู เกิดจากการที่เส้นเลือดภายในม่านตาและกระจกตาปรากฏชัด เนื่องจากไม่มีเม็ดสีมาบดบัง
ความแตกต่างระหว่าง "สัตว์เผือก" กับ "สัตว์ขาว (Leucism)"
แม้สัตว์เผือกและสัตว์ที่มีภาวะ Leucism จะมีขนหรือผิวสีขาวคล้ายกัน แต่ความแตกต่างที่สำคัญคือ
- สัตว์เผือก (Albinism): ไม่มีเม็ดสีทั้งร่างกาย รวมถึงดวงตา → ดวงตามีสีแดงหรือชมพู
- สัตว์ขาวจาก Leucism: มีความผิดปกติในการสร้างเม็ดสีบางส่วน ขนหรือผิวอาจเป็นสีขาว แต่ ดวงตายังคงมีสีปกติ
การพบสัตว์เผือกในธรรมชาติถือว่าหายากและมีความน่าสนใจทั้งในเชิงวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม หลายสังคมมองว่าสัตว์เผือกเป็น สัญลักษณ์ของความพิเศษ ความศักดิ์สิทธิ์ หรือความโชคดี ขณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์ก็นำข้อมูลของสัตว์เผือกไปใช้ในการศึกษาด้านพันธุกรรมและการอนุรักษ์สัตว์