แฉ 6 กลโกงมิจฉาชีพ เล็งหลอกผู้สูงวัย รู้ทันก่อนเงินทั้งชีวิตหาย

ในยุคที่มิจฉาชีพพัฒนาแผนการหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง ผู้สูงวัย กลายเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญ เพราะมีทั้งเงินเก็บ ประสบการณ์ชีวิต และความเชื่อใจผู้อื่นเป็นต้นทุน โดยหลายคดีพบว่า แม้จำนวนการแจ้งความจะไม่สูงมาก แต่ความเสียหายต่อรายกลับรุนแรงจนถึงขั้นสูญเงินออมทั้งชีวิต

หน่วยงานด้านความมั่นคงและสถาบันการเงินระบุว่า มิจฉาชีพในปัจจุบันไม่ใช้การข่มขู่โดยตรง แต่เลือกใช้ “จิตวิทยา” เข้าควบคุมอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นความกลัว ความหวัง หรือความรัก เพื่อให้เหยื่อยอมโอนเงินด้วยความสมัครใจ

6 กลโกงยอดฮิตที่ใช้กับผู้สูงวัย

1. ชวนลงทุนผลตอบแทนสูง
อ้างชื่อบริษัทดัง หรือสร้างแพลตฟอร์มปลอม หลอกให้เชื่อว่าเป็นโอกาสทำเงินในเวลาอันสั้น

2. อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ
โทรมาข่มขู่ว่าเกี่ยวข้องกับคดี ฟอกเงิน หรือยาเสพติด แล้วสั่งให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบ

3. หลอกให้รัก
สร้างความสัมพันธ์ผ่านโซเชียล ก่อนขอความช่วยเหลือทางการเงิน

4. อ้างเหตุฉุกเฉินในครอบครัว
โทรมาบอกว่าลูกหลานประสบอุบัติเหตุ ต้องใช้เงินด่วน

5. หลอกขายสินค้าและยารักษาโรค
โฆษณาเกินจริง อ้างรักษาได้สารพัดโรค เจาะความกังวลด้านสุขภาพ

6. หลอกให้รับเงินคืนหรือสวัสดิการ
แอบอ้างหน่วยงานรัฐ หลอกให้กดลิงก์หรือขอข้อมูลส่วนตัว

 

วิธีป้องกันที่ลูกหลานควรรู้

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า การป้องกันที่ดีที่สุดคือ “การสื่อสารในครอบครัว” ผู้สูงวัยควรได้รับการย้ำเตือนว่า

-   หน่วยงานรัฐและธนาคาร ไม่โทรสั่งให้โอนเงิน

-   อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวหรือรหัสใด ๆ ทางโทรศัพท์

-   หากมีเรื่องเงิน ต้องปรึกษาลูกหลานก่อนทุกครั้ง

-   หลีกเลี่ยงการกดลิงก์หรือโหลดแอปจากแหล่งไม่รู้จัก

ที่สำคัญ หากรู้ตัวว่าอาจถูกหลอก ควรรีบติดต่อธนาคารเพื่ออายัดบัญชี และแจ้งความทันที ยิ่งเร็ว ยิ่งมีโอกาสหยุดความเสียหายได้มากขึ้น

แหล่งที่มาอ้างอิง

ข้อมูลสถิติและคำเตือนจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)

บทความความรู้เรื่องกลโกงมิจฉาชีพจากเว็บไซต์ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)