ไอเอฟดีโพลชี้ ‘เท้ง’ นำห่าง คะแนนหนุนขึ้นแท่นนายกฯ คนต่อไป

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2568 ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ (ดร.แดน) ประธานสถาบันการสร้างชาติ ประธานสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา และนางจิตติมา บุญวิทยา ผู้อำนวยการไอเอฟดีโพลและเซอร์เวย์ ร่วมแถลงผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนไทยตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป  เรื่อง “เปิดสเปกนายกฯ ที่ทำให้ประเทศเดินหน้า ไม่ใช่เดินวน” 1,247 ตัวอย่าง  สำรวจในช่วง 11 - 13 ธ.ค. 2568 ใน 6 ภูมิภาค โดยการลงภาคสนามและการโทรศัพท์ สุ่ม‍ตัวอย่างความน่าจะเป็น Stratified Five-Stage Random Sampling ค่าความผิดพลาด 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

 

จากผลสำรวจโพลดังกล่าว ดร.แดน ได้วิเคราะห์ว่า ช่วง 5 ปีข้างหน้ามีนัยสำคัญอย่างยิ่งต่อทิศทางประเทศไทยในระยะ 20 ปีข้างหน้า และเป็นห้วงเวลาที่ประเทศต้องการผู้นำที่มีศักยภาพสูง ผลโพลสะท้อนว่า ประชาชนคาดหวังนายกรัฐมนตรีที่ “ดี–เก่ง–กล้า–มองไกล–มีความเป็นสากล” อย่างไรก็ตาม รายชื่อนักการเมืองหรือแคนดิเดตนายกฯ ในปัจจุบันยังไม่ตอบโจทย์ความคาดหวังดังกล่าว จนสะท้อนความรู้สึกสิ้นหวังของประชาชนต่อระบบการเมืองที่เป็นอยู่ ทั้งนี้ ผลสำรวจยังชี้ว่า ช่องทางที่ประชาชนมองว่าอาจนำไปสู่การได้ผู้นำที่พาประเทศก้าวหน้า คือการเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีนอกบัญชีรายชื่อพรรค โดย ดร.แดน ย้ำว่าต้องเป็นผู้นำพลเรือนที่มาด้วยกระบวนการอันชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น มิใช่จากการรัฐประหาร เพื่อพาประเทศผ่านวิกฤตและเจริญก้าวหน้า 

 

ซึ่งผลสำรวจไอเอฟดีโพล “เปิดสเปกนายกฯ ที่ทำให้ประเทศเดินหน้า ไม่ใช่เดินวน” สรุปได้ดังนี้

 

คุณสมบัตินายกรัฐมนตรีที่จะทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า คือต้อง “ทั้งดีและเก่ง” และช่องทางที่จะได้นายกรัฐมนตรีในแบบดังกล่าว ประชาชนให้ความเห็นว่ามี 2 ทางหลัก คือ

• จากระบบเลือกตั้งเดิม 44.10%,
• การเปิดทางคนนอกนอกบัญชีพรรค 40.90%

 

คุณสมบัติอันดับหนึ่งที่ประชาชนต้องการจากนายกรัฐมนตรีคือ 

• มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ โปร่งใส ตรวจสอบได้  23.14%
• เก่งรอบด้าน บูรณาการงานได้ 17.89%
• มีวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ระยะยาว 15.29%
• มองโลกกว้าง เข้าใจการต่างประเทศ รักษาผลประโยชน์ชาติ ทำไทยแข่งขันได้ 12.69%
• ตัดสินใจถูกต้อง-เร็วแม้เวลาและทรัพยากรจำกัด 8.85%
• กล้าเปลี่ยนแปลง 8.01%
• พัฒนาคนและการศึกษา 6.49%
• ทำให้การเมืองปรองดองลดขัดแย้ง 4.92%
• ใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีทันสมัยในการตัดสินใจ 2.72%

 

จากรายชื่อนักการเมืองหรือผู้สมัครที่มีอยู่ในปัจจุบัน คนที่เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรี ผลโพลพบว่า

• ยังไม่มีคนเหมาะ 53.57
•  มีคนเหมาะสมจะเป็นนายกฯ 46.43%

 

บุคคลที่เห็นว่าเหมาะสมเป็นนายกฯ ที่ระบุชื่อได้มีดังนี้

• นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ 23.14%
• นายอนุทิน ชาญวีรกูล 14.85%
• นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 11.23%
• นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ 8.64%
• คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 6.91%
• พลเอกรังษี กิติญาณทรัพย์ 5.87%
• พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส 5.35%
• นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ 5.18%
• นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ 5.01%
• นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค 4.49%
• และท่านอื่น ๆ ได้แก่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์, พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา, นางศุภจี สุธรรมพันธุ์, ศ.ชัยเกษม นิติสิริ, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ 9.33%

 

ผลสำรวจหัวข้อ วิธีจะได้ “นายกฯ มานำประเทศเจริญก้าวหน้า” โดยประชาชนระบุว่าได้จาก

• การเลือกตั้งตามระบบปัจจุบัน 44.10%
• เปิดทางให้นายกฯ คนนอกนอกบัญชีพรรค 40.90%
• รอพรรคเกิดใหม่เพื่อเสนอนายกฯ ที่เหมาะสม 15.00%

 

ผลสำรวจหัวข้อ “อยากได้นายกฯ ดี หรือ เก่ง” ประชาชนเลือก

• ขอทั้งดีและเก่ง 48.67%
• เลือกคนเก่ง 27.83%
• เลือกคนดี 23.50%
• เหตุผลของกลุ่มเลือกคนดี เพราะคนเก่งแต่ไม่ดีอาจสร้างความเสียหายหนักกว่า 39.57%
• ต้องได้คนดีมานำเพื่อความไว้ใจและเป็นแบบอย่าง 31.71%
• สามารถให้คนดีนำแล้วดึงทีมคนเก่งมาช่วยได้ 28.18%
• และเหตุผลของกลุ่มเลือกคนเก่ง เพราะประเทศต้องการคนเก่งบริหารเพื่อแก้วิกฤตและเดินหน้าเร็ว 34.78%
• ผลงานสำคัญกว่า ต้องเร่งเศรษฐกิจและปากท้องประชาชน 33.04%
• อยากได้ผู้นำที่ทำได้จริง 17.39%
• เชื่อว่ามีระบบตรวจสอบคุมได้แม้มีข้อกังขา 14.79%

 

ที่มา @Dr.Kriengsak Chareonwongsak เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์