ตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป คนไทยทุกคน ต้องยื่นภาษีบุคคลธรรมดา

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2570 เป็นต้นไป คนไทยทุกคนจะต้องเข้าสู่ระบบการ ยื่นภาษีบุคคลธรรมดา กับ กรมสรรพากร โดยไม่ว่าจะประกอบอาชีพใดหรือมีรายได้จากช่องทางใดก็ตาม ทั้งพนักงานประจำ ฟรีแลนซ์ หรือค้าขายออนไลน์ ก็ต้องทำการยื่นภาษีประจำปี

อย่างไรก็ตาม การที่ “ต้องเสียภาษี” หรือ “ไม่ต้องเสีย” ขึ้นอยู่กับจำนวน เงินได้สุทธิ ซึ่งคำนวณจาก “รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน” เมื่อหักออกแล้ว หากเงินได้สุทธิยังอยู่ในช่วงที่กฎหมายกำหนดให้ยกเว้น ก็จะไม่ต้องเสียภาษี

สำหรับปีภาษี 2568 เป็นต้นมา อัตราภาษีบุคคลธรรมดาของไทยยังคงเป็นแบบขั้นบันได (Progressive Tax) โดยคิดตามช่วงเงินได้สุทธิ ดังนี้

0–150,000 บาท → 0%

150,001–300,000 บาท → 5%

300,001–500,000 บาท → 10%

500,001–750,000 บาท → 15%

750,001–1,000,000 บาท → 20%

1,000,001–2,000,000 บาท → 25%

2,000,001–5,000,000 บาท → 30%

มากกว่า 5,000,000 บาท → 35%
 

ขั้นตอนคำนวณภาษีแบบเข้าใจง่าย

ขั้นตอนที่ 1: รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน = 💵 เงินได้สุทธิ

ขั้นตอนที่ 2: นำเงินได้สุทธิไปเทียบกับ “ฐานภาษี” เพื่อคำนวณจำนวนภาษีที่ต้องชำระ

 

ตัวอย่างการคำนวณภาษี

ก่อนเพิ่มค่าลดหย่อน

• เงินเดือนทั้งปี 520,000 บาท → หักค่าใช้จ่าย 100,000 บาท

• รายได้ขายของออนไลน์ 600,000 บาท → หักค่าใช้จ่ายเหมา 60% = 360,000 บาท

• ค่าลดหย่อนส่วนตัว + ประกันสังคม = 69,000 บาท

 

📍เงินได้สุทธิ = 591,000 บาท → อยู่ในฐานภาษี 15%

💸 ภาษีที่ต้องจ่าย = 41,150 บาท

หลังเพิ่มค่าลดหย่อน (วางแผนภาษีให้ดีขึ้น)

• ซื้อ ThaiESG 168,000 บาท

• ซื้อ RMF 100,000 บาท

• ประกันชีวิต 100,000 บาท

 

📍เงินได้สุทธิ = 223,000 บาท → อยู่ในฐานภาษี 5%

💸 ภาษีที่ต้องจ่ายลดเหลือเพียง 3,650 บาทเท่านั้น!

✅ เมื่อรวมค่าลดหย่อนเพิ่ม 368,000 บาท ช่วยประหยัดภาษีได้กว่า 37,000 บาทเลยทีเดียว

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

การ “ยื่นภาษี” ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะ “ต้องเสียภาษี” หากเงินได้สุทธิต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด หรือมีค่าลดหย่อนมากพอ ก็อาจได้รับการยกเว้น

การวางแผนภาษีล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การซื้อประกันชีวิต การลงทุนในกองทุน RMF หรือ ThaiESG ล้วนช่วยลดภาระภาษีได้อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ ผู้มีรายได้หลายช่องทาง เช่น เงินเดือน + ขายของออนไลน์ + งานอิสระ ต้องนำมารวมคำนวณภาษีทั้งหมดในปีเดียวกัน เพื่อยื่นแบบภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย

อย่าลืมเก็บหลักฐานการซื้อกองทุน ประกัน หรือเอกสารลดหย่อนอื่น ๆ ไว้ครบ เพื่อเตรียมยื่นต่อกรมสรรพากรในช่วงต้นปีถัดไป

 

สรุป

ปี 2570 ถือเป็นปีสำคัญของระบบภาษีไทย เพราะทุกคนจะต้อง “ยื่นภาษี” โดยไม่มีข้อยกเว้น แต่จะ “ต้องเสีย” หรือไม่ ขึ้นอยู่กับรายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน การรู้จักวางแผนล่วงหน้าจึงเป็นกุญแจสำคัญในการบริหารเงินอย่างฉลาด

แหล่งที่มา

กรมสรรพากร

PWC Thailand Tax Summary