"เรือน้ำมันเถื่อน" ตบตาเปลี่ยนสีใหม่ ส่วนน้ำมัน 3 แสนลิตร ขายเกลี้ยงแล้ว

กรณี "เรือน้ำมันเถื่อน" ทั้งหมด 3 ลำ บรรทุกน้ำมันรวมกว่า 330,000 ลิตร ที่หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบอย่างปริศนา ล่าสุดวันที่ 17 มิ.ย.67 มีความคืบหน้าหลังจากพบเรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำดังกล่าว โดยพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ได้แถลงการ ติดตามเรือของกลาง 3 ลำ พร้อมลูกเรือ 15 คน หายไปเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา

 

หลังได้สืบสวนจนทราบว่า เรือทั้งหมดถูกนำไปจอดที่ประเทศกัมพูชา เพื่อหลบซ่อน และขายน้ำมันของกลางทั้งหมดที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งน้ำมันกว่า 3แสนลิตร ถูกขายไปแล้วที่กัมพูชา 

ซึ่งทาง เนชั่นทีวี เปิดเผยว่า ระหว่างที่เรือทั้ง 3 ลำหลบหนีไป ได้เปลี่ยนสีเรือซีฮอต ที่เก๋งเรือ พื้นเรือ จากสีแดง เป็นสีเขียว เพื่อเลี่ยงการตรวจจับ นำเรือไปใช้ใหม่ ส่วนอีก 2 ลำ กำลังจะเปลี่ยน รูปพรรณเรือเช่นกัน แต่ยังไม่ทันดำเนินการก็ไหวตัวทันว่า เจ้าหน้าที่พบแหล่งกบดาน จึงได้นำเรือออกทะเลอย่างเร่งรีบ ทำให้ลูกเรือบางส่วนอยู่บนเรือเพียง 8 คน จากทั้งหมด 15 คน โดยจับได้บนเรือเจพี 4 คน เรือดาวรุ่ง 1 คน และเรือกำไลเงินหรือซีฮอต 3 คน 

ทั้งนี้พบว่า คือ เรือดาวรุ่ง ซึ่งเป็น 1ใน3 ลำ  พังเสียหายเดินเครื่องไม่ได้ มีการลากจูงอยู่กลางทะเล เบื้องต้น กำลังนำเรือทั้ง 3 ลำ กลับเข้าฝั่งที่ถ้าเทียบเรือกองกองกำกับการเจ็ด กองบังคับการตำรวจน้ำจังหวัดสงขลา ซึ่งสามารถเดินเรือได้เพียง 5 น็อต จึงทำให้ล่าช้า

คาดว่า เรือทั้งสามลำพร้อมผู้ต้องหาจะเข้าฝั่งได้ในช่วงค่ำวันนี้(17 มิ.ย.67) ก่อนที่ในวันที่ 18 มิ.ย.67 จะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน มาสอบปากคำและทำบันทึกจับกุม ก่อนส่งตัวเข้าไปสอบสวนขยายผลที่กองบังคับการปราบปราม ด้วยเครื่องบิน 

 

 

 

ที่มา เนชั่นทีวี