อดีตแอดมิน แฉแหลก "ครอบครัวน้องไนซ์" เจ็บใจโดนให้ร้ายหลังลาออก

18 พฤษภาคม 2567

อดีตแอดมิน เจ็บใจโดนให้ร้ายหลังลาออก แฉแหลก ครอบครัวน้องไนซ์ จัดประมูลยันชุดลูก แถมแอบเปิดรับบริจาคบังหน้า

เป็นประเด็นร้อนที่ดุเดือดมาอย่างต่อเนื่อง กรณี "น้องไนซ์" เด็ก 8 ขวบ อ้างเป็นร่างอวตารองค์เพชรภัทรนาคานาคราช สามารถเชื่อมจิตได้ทำให้คนศรัทธา ทำเอาหลายคนสงสัยว่าการ "เชื่อมจิต มีอยู่จริงหรือไม่ จนกลายเป็นประเด็นถกเถียงในสังคม เกี่ยวกับความเหมาะสม ศาสนา และสุขภาพจิต ล่าสุดอดีตแอดมิน ได้ออกมาแฉพฤติกรรมของน้องไนซ์ และครอบครัวของน้องไนซ์  เจ็บใจโดนให้ร้ายหลังลาออก

อดีตแอดมิน แฉแหลก ครอบครัวน้องไนซ์ เจ็บใจโดนให้ร้ายหลังลาออก

 

โดยอดีตแอดมิน รายนี้เผยว่าตนทำงานเป็นทีมแอดมินน้องไนซ์ ได้ประมาณ 2 ปี  ส่วนตัวเป็นคนชอบเรื่องการสวดมนต์นั่งสมาธิอยู่แล้ว และมีโอกาสเห็นตอนน้องไนซ์สอนสมาธิวิปัสสนาในออนไลน์

อดีตแอดมิน แฉแหลก ครอบครัวน้องไนซ์ เจ็บใจโดนให้ร้ายหลังลาออก

จึงลองเข้าไปร่วมในกิจกรรมงานต่างๆจากนั้นจึงตัดสินใจชวนแฟนเข้าไปเป็นแอดมิน ส่วนของตัวเองมีหน้าที่ช่วยเรื่องลงทะเบียนดูแลความเรียบร้อยเวลาจัดกิจกรรม ซึ่งช่วงแรกที่เข้าไปเป็นแอดมินเห็นว่าน้องไนซ์เป็นเด็กน่ารัก แต่ช่วงหลังๆ พฤติกรรมน้องไนซ์เริ่มเปลี่ยนไปมีการใช้ความรุนแรงและใช้คำไม่สุภาพกับแอดมินมากขึ้น

 ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจออกจากการเป็นแอดมินเป็นช่วงที่ ครอบครัวน้องไนซ์ เริ่มมีการหารายได้จากการขายคอร์ส ทำหนังสือคำสอน ทำเสื้อออกมาขาย อีกทั้งมีการประมูลชุดที่น้องไนซ์ใส่ทำกิจกรรมได้เงินหลักแสนบาท 

ซึ่งตัวเองมองว่าผิดแนวทางของพระพุทธศาสนาไปไกลมากแล้ว จึงชักชวนแฟนลาออกจากการเป็นแอดมิน นายเอบอกว่าขณะที่เข้าไปเป็นแอดมินช่วยงาน น้องไนซ์ โดยไม่เคยได้รับเงินค่าจ้างแม้แต่บาทเดียว

อดีตแอดมิน บอกว่า ตอนที่ลาออกมาจากการเป็นแอดมินก็แจ้งกับทางครอบครัวน้องไนซ์ว่าขอออกมาโฟกัสเรื่องงานซึ่งขณะนั้นก็จบด้วยดี แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นมีการไปประกาศแจ้งให้ร้ายตัวเองกับแอดมินและญาติธรรมคนอื่นๆ ว่า ทำผิดกฎของกลุ่ม โดยการแอบขายเครื่องรางของขลัง ซึ่งไม่เป็นความจริง

อดีตแอดมิน แฉแหลก ครอบครัวน้องไนซ์ เจ็บใจโดนให้ร้ายหลังลาออก

 

นอกจากนี้ ยังแฉอีกว่าครอบครัวของน้องไนซ์บอกกับทีมแอดมินว่าคนที่น้องไนซ์ลงไปเชื่อมจิตด้วยเป็นโค้ชเทรดทองคำที่ครอบครัวเคยเทรดมาก่อน พร้อมชักชวนแอดมินให้ลงทุน แต่ลักษณะเป็นการชักชวนตามความสมัครใจ  ซึ่งท้ายที่สุดก็พบว่ามีแอดมินหลายคนที่เสียเงินไปมากสุดถึง 2 แสนบาท

 

และช่วงที่มีการเปิดรับบริจาคเงินสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม ที่มีข้อมูลว่ารับบริจาคผ่านบัญชีของหมอคนหนึ่ง ตัวเองในฐานะแอดมินเคยเห็นยอดเงินบริจาคกว่า 1,000,000 บาท แต่หลังจากนั้นก็แจ้งว่าเหลือเงินเพียง 20,000-30,000บาท เพราะนำเงินไปซื้อที่ดินสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมก่อนจะมารู้ภายหลังว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของแม่น้องไนซ์เอง