สั่งยึดทรัพย์ "ฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ" กว่า 52 ล้าน หลังพบร่ำรวยผิดปกติ

10 เมษายน 2567

ศาลอาญาทุจริต สั่งยึดทรัพย์ 52,491,368.33 บาท “ฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ” อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน ร่ำรวยผิดปกติ

เมื่อวันที่ 9 เม.ย.67 ที่ผ่านมา นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงข่าวเกี่ยวกับคดีตามคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณีนายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ซึ่ง ป.ป.ช. ขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินรวมมูลค่า 52,491,368.33 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน

สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด ที่ประชุมมีมติให้ส่งรายงาน สำนวน การไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาล สั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน

สั่งยึดทรัพย์ ฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ กว่า 52 ล้าน หลังพบร่ำรวยผิดปกติ

 

 

​ต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 25 ก.ค.66 ความแพ่ง เรื่อง ขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน คดีหมายเลขดำที่ พท 1/2565 คดีหมายเลขแดงที่ พท 2/2566 ระหว่างอัยการสูงสุด ผู้ร้อง กับนายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ ผู้ถูกกล่าวหา และนางทิพวัลย์ ฉัตรภูติ ผู้คัดค้าน ความว่า ศาลพิพากษาให้ทรัพย์สินในชื่อผู้ถูกกล่าวหา พร้อมดอกผลรวมเป็นเงิน 44,858,877.33 บาท กับทรัพย์สินในชื่อผู้คัดค้าน

พร้อมดอกผลรวมเป็นเงิน 7,632,491 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน ให้ผู้ถูกกล่าวหา และผู้คัดค้าน ส่งมอบเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงินและทรัพย์สินที่มีคำพิพากษาให้ตกเป็นของแผ่นดิน หรือเอกสารที่เกี่ยวกับการรับช่วงทรัพย์ของเงิน หรือทรัพย์สินดังกล่าว  พร้อมกับให้โอนกรรมสิทธิ์หรือชำระเงิน พร้อมดอกผลของทรัพย์สินที่มีคำพิพากษาให้ตกเป็นของแผ่นดิน โดยกระทรวงการคลัง หากไม่โอน ให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนา

 

 

สั่งยึดทรัพย์ ฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ กว่า 52 ล้าน หลังพบร่ำรวยผิดปกติ
 

หากผู้ถูกกล่าวหาและผู้คัดค้านไม่สามารถโอนทรัพย์สินให้แก่แผ่นดินได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม ให้ผู้ถูกกล่าวหาชดใช้เงินแทนทรัพย์สินที่มีคำพิพากษาให้ตกเป็นของแผ่นดิน หรือให้โอนทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาตามสัดส่วนของมูลค่าทรัพย์สินที่ขาดอยู่แก่แผ่นดินแทนจนครบถ้วน

สำหรับทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ จำนวน 3 รายการ รวมมูลค่า 52,491,368.33 บาท ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวที่ศาลมีคำพิพากษา ตรงกับที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทุกรายการ

โดยมีรายละเอียดคือ ​ทรัพย์สินในชื่อนายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ ประกอบด้วย ​1.เงินชำระค่าใช้จ่ายบัตรเครดิตบริษัท อเมริกันเอ็กซ์เพลส (ไทย) จำกัด ช่วงวันที่ 20 ส.ค.45 ถึงวันที่ 1 พ.ค.49 รวมเป็นเงิน 34,518,129.57 บาท  ​2.เงินค่าเช่าซื้อรถยนต์เบนซ์ 2 คัน รวม 10,340,747.76 บาท ทรัพย์สินในชื่อนางทิพวัลย์ ฉัตรภูติ คือ เงินฝากในธนาคาร ช่วงวันที่ 20 ส.ค.45 ถึงวันที่ 1 พ.ค.49 จำนวน 7,632,491 บาท